xs
xsm
sm
md
lg

ปี 63...อย่าหวังรวยจากหุ้น / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตลาดหุ้นปี 2562 ปิดฉากลงแล้ว และเป็นอีกปีที่นักลงทุนไม่มีความสุขมากนัก เพราะบาดเจ็บต่อเนื่องจากปี 2561 โดยไม่มีความมั่นใจว่า บรรยากาศการลงทุนปี 2563 จะกระเตื้องขึ้นหรือไม่

ช่วงปลายปีของแต่ละปี นักวิเคราะห์หลักทรัพย์โบรกเกอร์ต่างๆ หรือบรรดากูรูหุ้นทั้งหลาย จะออกมาทำนายแนวโน้มตลาดหุ้นกันอย่างคึกคัก ประมาณการเป้าหมายดัชนีหุ้นกันอย่างสวยหรู

แต่ปลายปี 2562 นักวิเคราะห์หุ้นหายหน้าหายตาไป ไม่ได้ตั้งวงทำนายหุ้นอย่างคึกคักเหมือนปีที่ผ่านมา และนักวิเคราะห์ที่ออกมาประมาณการเป้าหมายดัชนีหุ้น ส่วนใหญ่ตั้งเป้าหมายในเชิงอนุรักษ์ โดยคาดว่า แนวโน้มตลาดหุ้นโดยรวมน่าจะดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา

ส่วนกรอบดัชนีหุ้นที่ประเมินกันไว้ จะอยู่กรอบแคบๆ มีทั้งกรอบ 1,600-1,800 จุด และ 1,600-1,700 จุด แต่ก็มีโบรกเกอร์บางสำนักที่มองว่า ตลาดหุ้นปีหน้าอาจย่ำแย่กว่าปีนี้ และดัชนีหุ้นอาจถอยลงมาอยู่ระดับ 1,450 จุด

ปี 2562 นักวิเคราะห์หลักทรัพย์แทบทุกสำนัก ทำนายพลาดมาแล้ว เพราะต้นปีคาดว่า ตลาดหุ้นจะกระเตื้องขึ้นจากปี 2561 ซึ่งผลตอบแทนจากตลาดหุ้นติดลบ 10.80% เป้าหมายดัชนีหุ้นที่โบรกเกอร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ เฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 1,750 จุด และคาดหมายกันว่า นักลงทุนต่างประเทศจะกลับมาลงทุน

แต่ปรากฏว่า นักลงทุนต่างประเทศไม่ยอมกลับมา และยังขายหุ้นต่อเนื่อง โดยปี 2561 ขายหุ้นสุทธิ 2.87 แสนล้านบาท ปี 2562 ขายสุทธิอีกกว่า 4 หมื่นล้านบาท และไม่มีสัญญาณว่า ปีนี้จะกลับเข้ามาลงทุน

ขณะที่ดัชนีหุ้น แม้จะขยับขึ้นไปแตะที่ระดับ 1,770 จุด แต่ก็ถอยหลังลงมา และปิดสิ้นปีในระดับใกล้เคียงกับจุดปิดสิ้นปี 2562

ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นเผชิญผลกระทบทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอก ความคาดหวังว่า หลังการเลือกตั้งวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา และมีรัฐบาลชุดใหม่ จะทำให้การเมืองมีเสถียรภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน

แต่หลังการเลือกตั้ง สถานการณ์การเมืองกลับไม่นิ่ง รัฐบาลชุดใหม่ไม่ได้เรียกความมั่นใจนักลงทุนกลับมา ขณะที่ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนหาข้อยุติไม่ได้ และยังถูกซ้ำเติมด้วยเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ขณะที่เศรษฐกิจภายในประเทศซบเซาสุดขีด ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนอย่างชัดเจน

โดยงวด 9 เดือนแรกปีนี้ กำไรบริษัทจดทะเบียนลดลงกว่า 15% และทำให้ตลาดหุ้นถูกลดความน่าสนใจลง แม้ราคาหุ้นจะต่ำก็ตาม

ข่าวดีที่รอคอยกันในต้นปีนี้คือ การลงนามในข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งหากเกิดขึ้นจะคลายความวิตกกังวลของนักลงทุน แต่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ก็ยังไม่ให้น้ำหนักกับปัจจัยในเชิงบวกด้านนี้มากนัก

เพราะแม้สงครามการค้าจะคลี่คลาย แต่เศรษฐกิจโลกยังชะลอตัวต่อ และเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มซบเซาต่อเนื่อง ส่งกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน

ไม่มีกูรู้หุ้นคนใดรับประกันว่า ตลาดหุ้นปีนี้จะคืนสู่ความสดใส ไม่มีใครมองแนวโน้มการลงทุนในปีนี้จะสดใสมากนัก และส่วนใหญ่ยังมีคำเตือนให้นักลงทุนต้องระมัดระวัง เพราะหุ้นอาจผันผวนเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา

2 ปีติดแล้วที่นักลงทุนไม่สามารถแสวงหาผลตอบแทนที่ดีจากตลาดหุ้นได้ ส่วนปีนี้ก็ยังไม่มีสัญญาณที่ดีจากตลาดหุ้นนัก มีแต่ปัจจัยความเสี่ยง โดยเฉพาะความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และเศรษฐกิจภายในประเทศตกต่ำ ฉุดให้ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไม่เติบโต

ปี 63 จึงอาจไม่ใช่ปีที่ดีสำหรับตลาดหุ้น และยังไม่ถึงเวลาที่จะเพิ่มวงเงินหรือขยายพอร์ตลงทุนหุ้น เพราะไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าตลาดหุ้นจะฟื้นคืนสู่ความสดใส

มีแต่ ปัจจัยลบที่ต้องระวัง ทั้งสงครามการค้า เศรษฐกิจโลกชะลอตัว สถานการณ์การเมือง และเศรษฐกิจภายในประเทศที่อาจทรุดหนักลงไปอีก

นักลงทุนที่ยังไม่ได้หนีออกจากตลาดหุ้น อย่าหวังรวยจากการเล่นหุ้น สิ้นปีเงินเหลือเท่าเก่า ไม่ยุบหายเพราะเสียหุ้น ถือว่าเก่งแล้ว






กำลังโหลดความคิดเห็น