ธพส. ลงนามสัญญาจ้างที่ปรึกษาคุมงานก่อสร้างพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการฯ โซน C แล้ว "ประธาน ธพส." เผย เตรียมเปิด E-bidding งาน Basement วงเงิน 2.2 พันล้านบาท เป็นลำดับต่อไป ก่อนการก่อสร้างจะเริ่มได้ใน พ.ค.63 คาดจะแล้วเสร็จใน ก.ย.66
นายนาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) และกลุ่มที่ปรึกษา SPC Consortium ซึ่งประกอบไปด้วย บริษัท สโตนเฮ้นจ์อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และบริษัท คอนซัลแทนท์ ออฟ เทคโนโลยี จำกัด ได้ร่วมกันลงนามในสัญญาว่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โซน C ทั้งนี้ นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ ในฐานะประธานกรรมการ ธพส. ได้เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน
โดยประธาน ธพส. กล่าวว่า การลงนามครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของความคืบหน้าการดำเนินงานของ ธพส. ที่ได้ทำการคัดเลือกและลงนามจ้างผู้รับผิดชอบในการดูแลควบคุมการก่อสร้าง โครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โซน C เพื่อควบคุมดูแลการก่อสร้างอาคารศูนย์ราชการ โซน C ให้ได้ตามมาตรฐานประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ทาง ธพส. ได้เริ่มดำเนินการจัดจ้างกลุ่มที่ปรึกษาในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนการดำเนินการก่อสร้างโครงการดังกล่าวให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ตามกำหนด เช่น กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาออกแบบก่อสร้างโครงการ Government Center Design Team (GCDT) ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาด้านจราจร และจัดจ้างผู้ก่อสร้างงานเสาเข็มทั้งหมดของโครงการ
สำหรับงานในลำดับต่อไปนั้น ธพส. จะเปิด E-bidding งาน Basement วงเงิน 2,200 ล้านบาท โดยจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ภายในเดือน พ.ค.63 ทั้งนี้ อาคารศูนย์ราชการฯ โซน C จะมีพื้นที่ใช้สอยรวม 660,000 ตารางเมตร คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือน ก.ย.66
สำหรับศูนย์ราชการฯ โซน C ตั้งอยู่บนพื้นที่ 81 ไร่เศษ โดยแผนการระดมทุน 22,000 ล้านบาท ภายใต้การดูแลของ ธพส. ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โซน C ตั้งแต่เดือน พ.ย.61 โดยปัจจุบันได้เตรียมพื้นที่ให้มีความพร้อมสำหรับก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการออกแบบรายละเอียด
ส่วนวัตถุประสงค์ของการก่อสร้างพื้นที่ส่วนขยายในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ประชาชนทุกภาคส่วนของสังคมให้ได้รับความสะดวกในการติดต่อราชการ ทั้งในด้านอาคารสถานที่และบริการ รวมทั้งโครงการนี้จะช่วยลดงบประมาณของหน่วยงานภาครัฐ ที่มีสถานที่ทำงานไม่เพียงพอ หรือไม่มีพื้นที่เป็นของตัวเอง ทำให้ต้องเช่าอาคารสำนักงานของภาคเอกชน และเป็นการใช้ประโยชน์ที่ดินภายในศูนย์ราชการอย่างเต็มศักยภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด โครงการคาดใช้ระยะเวลาการดำเนินงานตั้งแต่เดือน เม.ย.62-ธ.ค.66 หรือรวม 57 เดือน