บมจ.คอมเซเว่น มั่นใจปีนี้รายได้แตะ 3 หมื่นล้านบาท ไตรมาส 4 พีคสุด หลังยอดขายไอโฟน 11 พุ่งแรง ขณะที่สัปดาห์หน้า เตรียมเปิดเผยตัวเลขแผนงานปี 63 ส่วนหุ้นร่วง เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 62 เป็นไปตามภาวะตลาด ด้านโบรกเกอร์ แนะนำซื้อ มองปีหน้า กำไรโต 19% อยู่ที่ 1,420 ล้านบาท จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น ทั้งหน้าร้านที่มากขึ้น - สินค้าที่จำหน่ายมีความหลากหลาย
นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าปีนี้จะมีรายได้ประมาณ 30,000 ล้านบาท หรือ เติบโตมากกว่า 10% โดยเฉพาะไตรมาส 4/62 ที่ผลการดำเนินงานจะเติบโตดีที่สุด ตามยอดขาย iPhone 11 , iPhone 11 Pro , และ iPhone 11 Pro Max ที่พบว่า 2 เดือนที่ผ่านมา (ต.ค.-พ.ย.) มียอดขายเติบโตได้ดี โดย 9 เดือนที่ผ่านมามีรายได้รวมอยู่ที่ 23,040.47 ล้านบาท จากปี 61 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 27,982.24 ล้านบาท
ส่วนรายได้ปีหน้า (2563) ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดทำแผน และ ศึกษารายละเอียดถึงโครงการที่จะทำในอนาคต โดยจะสามารถเปิดเผยตัวเลขได้ประมาณสัปดาห์หน้า
ขณะที่ราคาหุ้นที่ปรับลดเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 62 เป็นไปตามภาวะตลาดหุุ้นโดยรวม ซึ่งต่อให้เป็นหุ้น หรือ ธุรกิจที่ดี แต่ภาวะตลาดหุ้นไม่ดี ไม่เอื้อ ก็อาจทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นได้
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/62 จะขยายตัวทำสถิติใหม่ และ จะขยายตัวเพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นหนุนโดย ปัจจัยฤดูกาลที่มีการทยอยเปิดตัว iPhone และ Android ใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ตลอดจนสินค้า Apple มีความต้องการที่สูงทั้ง iPhone 11 และ รุ่น n-1 ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นภายหลัง Apple ลงมาแข่งขันด้านราคาส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดของ Apple หลังที่มีการขาย iPhone 11 ปรับตัวเพิ่มขึ้น ณ สิ้น พ.ย. อยู่ที่ 23.1% จาก ต.ค. ที่ 21.9% รวมทั้งยอดขาย iPad ยังมีส่วนแบ่งการตลาดที่สูงกว่า 66% ในเดือน พ.ย. และ บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มสาขาจำนวน 62 สาขาในไตรมาส 4/62 ส่งผลให้
ณ สิ้นปีบริษัทจะมีสาขารวมที่ 785 สาขา และ บริษัทมีการจัดโปรโมชั่นในช่วงปลายปี เช่น 7 More Gadget Gift Fest ที่ช่วยกระตุ้นยอดขายสินค้า Accessories และเพิ่ม Gross profit margin
ส่วนกำไรสุทธิปี 63 จะขยายตัวเพิ่มขึ้น 19% และ ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 63 ไว้ที่ 1,420 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากปีก่อนหน้า โดยมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น หนุนโดยจำนวนหน้าร้านที่สูง , สินค้าที่จำหน่ายมีความหลากหลายมากขึ้น โดยในปี 63 ซึ่งยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และ ราคาเป้าหมายที่ 32.00 บาท
ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุว่า ยังคงมุมมองบวกต่อโมเมนตัมกำไร 4Q62 กำลังทำจุดสูงสุดของปีจากสินค้า Apple (50% ของรายได้) ที่เปิดตัวในเดือนต.ค.โดยเฉพาะ iPhone 11 ที่ขายดีกว่ารุ่นปีก่อนถึง 40% และคาดต่อเนื่องไปยังปี 2563 ตามแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ที่น่าสนใจไม่แพ้ปีนี้ รวมถึงเป็นปีที่เริ่มเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนมือถือรอบใหญ่รองรับ 5G ในไทย เราคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสมปี 2563 เท่ากับ 30.50 บาท อิง DCF (WACC = 6.71%)
นอกจากนี้ ยังมองปี 2563 เป็นปีที่ดีของ COM7 ที่จะทำกำไร All-time high ต่อเนื่องได้ต่อ จากสินค้า Apple ที่เปิดตัวปลายปียังคงโมเมนตัมการขายในช่วง 1Q-2Q63 สินค้าใหม่น่าสนใจทั้ง iPhone SE2,New iPad Pro/Watch ก่อนที่ iPhone 12 (เริ่มรองรับ 5G) จะวางขายช่วงปลายปีหน้า หลังการเปิดให้บริการ 5G ในไทย นำมาสู่การเปลี่ยนมือถือรอบใหญ่(รวมถึงแบรนด์อื่นๆ เช่น Samsung ,Huawei) หนุน SSSG โตระดับสองหลัก และการขยายสาขา ทั้งรูปแบบเดิมและใหม่เน้น IoTs (Gadgets,EV), Gaming, Accessory ที่มาร์จิ้นสูง รวมถึงพัฒนาช่องทางอื่นๆทั้ง Online และ franchise ในต่างจังหวัด (asset-light model)
ประเมินกำไร 4Q62 ของ COM7 โดดเด่นกว่ากลุ่มค้าปลีก CPALL,HMPRO,GLOBAL ที่เฉลี่ย 10%YoY ขณะเทรดบน P/E’63 = 23X ต่ำกว่ากลุ่มที่ 25-27X คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 30.50 บาท/หุ้น อิง DCF (WACC = 6.71%) เทียบเคียงได้ P/E = 25X หรือใกล้กับ 3Yr-Historical P/E +0.5SD โดยมีความเสี่ยงคือ การชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจและการบริโภค,การแข่งขันที่สูงในกลุ่ม,การเข้ามาเปิดสาขาในประเทศไทยของ Apple