xs
xsm
sm
md
lg

ก.ล.ต.เดินหน้าเปิดทางเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ ระดมทุนผ่านตลาดทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ก.ล.ต.เดินหน้าเปิดทางเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ ระดมทุนผ่านตลาดทุน คาด 19 ธ.ค.นี้ได้ข้อสรุปเบื้องต้นเกณฑ์ตลาดรอง

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยความคืบหน้าการส่งเสริมให้เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพมีทางเลือกในการระดมทุนผ่านตลาดทุน ปัจจุบันอยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นการระดมทุนในตลาดแรก ส่วนหลักเกณฑ์การจัดตั้งตลาดรองในการซื้อขายหลักทรัพย์ของเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพคาดว่าจะได้ข้อสรุป 19 ธันวาคม 2562 นี้ พร้อมมีแนวทางปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้เหมาะสมเพื่อลดอุปสรรคในกระบวนการระดมทุน เช่น การจัดส่งงบการเงิน และคุณสมบัติ CFO และผู้สอบบัญชี

ก.ล.ต.ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลและพัฒนาตลาดทุนไทยให้ความสำคัญในการส่งเสริมให้เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพมีทางเลือกในการระดมทุนผ่านตลาดทุน โดยการออกหุ้นหรือตราสารหนี้ได้ตามความเหมาะสมของภาคธุรกิจ

ก.ล.ต.ได้เปิดให้สามารถระดมทุนผ่านคราวด์ฟันดิ้ง* (crowdfunding) ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากพัฒนาการด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อทำให้กระบวนการระดมทุนสำหรับเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพเป็นไปด้วยความง่าย สะดวก และรวดเร็ว

นอกจากนี้ ตั้งแต่มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา ก.ล.ต.ได้ศึกษาแนวทางเพิ่มเติมในการส่งเสริมให้เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพสามารถเข้าถึงแหล่งทุนในตลาดทุน โดยได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันประเมินปัญหาและอุปสรรคของเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพอย่างเป็นระบบ และในเดือนกันยายน 2562 ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานเสริมสร้างวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจเริ่มต้นกิจการเงินร่วมลงทุน นิติบุคคลร่วมลงทุนสู่ตลาดทุนไทย หรือคณะทำงาน SMEs Startup PE VC ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย* เพื่อกำหนดมาตรการสนับสนุนการระดมทุนของเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพในตลาดทุนทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยคำนึงถึงความสมดุลของกฎเกณฑ์ ทั้งในฝั่งผู้ระดมทุน และผู้ลงทุนที่มีความสนใจลงทุนในกิจการในระดับดังกล่าว โดยในช่วงที่ผ่านมาสามารถสรุปการดำเนินการของ ก.ล.ต.ได้ดังนี้

1. ในการระดมทุนในตลาดแรก : ในเดือนสิงหาคม 2562 ก.ล.ต.ได้เสนอคณะกรรมการ ก.ล.ต.พิจารณาเปิดช่องทางให้บริษัทจำกัดสามารถระดมทุนในตลาดแรกผ่านการเสนอขายหุ้นและหุ้นกู้แปลงสภาพต่อผู้ลงทุนและพนักงานโดยตรงได้เป็นครั้งแรก ทั้งนี้ ไม่เกิน 10 ราย 20 ล้านบาท เพื่อช่วยให้เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพสามารถระดมทุนได้สะดวกมากขึ้น และจูงใจพนักงานที่มีศักยภาพให้เข้ามาร่วมงานกับเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ดังกล่าวจนถึงวันที่ 25 ธันวาคม 2562 ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถออกหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ภายในต้นปี 2563

2. ในการซื้อขายผ่านตลาดรอง : ก.ล.ต.ได้มีการหารือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเกี่ยวกับแนวทางในการวางหลักเกณฑ์การซื้อขายหุ้นของเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพในตลาดรองมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเปิดให้ผู้ลงทุนในตลาดรองสามารถลงทุนและซื้อขายเปลี่ยนมือหุ้นของเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพได้ โดยต้องเป็นผู้ลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ โดย ก.ล.ต.จะหารือคณะทำงาน SMEs Startup PE VC ในการประชุมวันที่ 19 ธันวาคม 2562 นี้ เกี่ยวกับเกณฑ์การรับหลักทรัพย์เพื่อนำมาใช้กำหนดหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องต่อไป

3. การปรับปรุงกฎเกณฑ์ให้มีความเหมาะสม : เพื่อมิให้เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพมีต้นทุนในการระดมทุนที่สูงจนเกินไป ก.ล.ต.มีแนวคิดที่จะส่งเสริมให้เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี โดยจัดทำรายงานทางการเงิน โดยใช้แอปพลิเคชัน รวมทั้งจะพิจารณาความเหมาะสมในการเปิดให้จัดส่งงบการเงินเฉพาะงบครึ่งปีและงบปี (จะยกเว้นการจัดส่งงบไตรมาส 1 และไตรมาส 3) และไม่กำหนดคุณสมบัติ CFO และไม่บังคับให้ใช้ผู้สอบบัญชีที่อยู่ในรายชื่อที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต.ได้ หากปฏิบัติงานในสำนักงานสอบบัญชีที่ ก.ล.ต.ให้ความเห็นชอบ

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า "ในเดือนมิถุนายน 2562 เป็นครั้งแรกที่ ก.ล.ต.ได้ริเริ่มมีแนวคิดที่จะพิจารณาทบทวนเกณฑ์การออกและเสนอขายหลักทรัพย์ของเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพในตลาดแรกและตลาดรอง เพื่อเพิ่มช่องทางให้ธุรกิจที่มีศักยภาพมีโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนในตลาดทุนได้ และต่อมาในเดือนกันยายนก็ได้ริเริ่มจัดตั้งคณะทำงาน SMEs Startup PE VC ซึ่งมีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาระบบนิเวศที่เกี่ยวข้อง ระบุปัญหาและอุปสรรค รวมทั้งกำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกัน โดยคาดว่าวันที่ 19 ธันวาคม 2562 นี้จะได้ข้อสรุปเบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดตั้งตลาดรองในการซื้อขายหลักทรัพย์ของเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ รวมทั้งการกำหนดคุณสมบัติของผู้ลงทุนที่สามารถลงทุนได้"

หมายเหตุ

1. Crowdfunding คือ การระดมทุนผ่านผู้ให้บริการระบบคราวด์ฟันดิ้งเป็นการระดมทุนจากประชาชนหมู่มาก (the crowd) ผ่านเว็บไซต์ที่เป็นตัวกลาง (funding portal) โดยอาศัยเทคโนโลยีของระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งผู้ลงทุนแต่ละรายจะลงทุนในจำนวนเงินที่ไม่มาก แต่จะอาศัยพลังของจำนวนผู้ลงทุนที่มากพอจนสามารถตอบสนองความต้องการในการใช้เงินของธุรกิจได้

2. คณะทำงาน SMEs Startup PE VC ประกอบด้วยตัวแทนจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน

3. สถาบัน สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย สมาคมไทยผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน ชมรมวาณิชธนกิจ สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น