สบน. เปิดตัว Bond Direct Application และเตรียมเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นใหม่วงเงิน 5,000 ล้านบาท รุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เริ่มเปิดขายวันที่ 23 ธ.ค. 62 ถึง 24 เม.ย. 64 โดยผู้ซื้อพันธบัตรสามารถซื้อผ่าน Bond Direct Application และชำระเงินผ่าน KTB Next หรือเคาน์เตอร์แบงก์กรุงไทย ส่วนผู้ที่ต้องการซื้อผ่านช ATM/ Counter/Internet Banking/ Mobile Application ของแบงก์ตัวแทนจำหน่ายทั้ง 4 แห่ง สามารถดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค.62 ถึง 24 เม.ย. 63
นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ได้แถลงข่าวเปิดตัว BOND DIRECT Application เพื่อรองรับการให้บริการจองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลังในปีงบประมาณ 63 ครั้งที่ 1 และพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นพิเศษ ซึ่งจะจำหน่ายในเดือน ธ.ค. 62
สำหรับ BOND DIRECT Application และ Line@bonddirect จะเป็นช่องทางการลงทุนพันธบัตรออมทรัพย์ล่าสุดที่ทำให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงพันธบัตรออมทรัพย์ได้อย่างสะดวกสบายผ่านโทรศัพท์มือถือ สอดคล้องกับวิถีชีวิตและนวัตกรรมทางการเงินในปัจจุบัน และทำให้ผู้ลงทุนแน่ใจว่าได้สิทธิการซื้อพันธบัตรอย่างแน่นอนเมื่อเดินทางไปซื้อที่สาขาธนาคาร โดย BOND DIRECT Application รองรับฟังก์ชั่นการจองและซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ รวมถึงการดูข้อมูลการลงทุนพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นต่างๆ ของนักลงทุนอีกด้วย
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการ สบน. ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเดือน ธ.ค. นี้ สบน. จะเปิดจำหน่ายพันธบัตรของรัฐบาลวงเงินรวม 2 หมื่นล้านบาท จำนวน 2 รุ่น ดังนี้ 1. พันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ 63 ครั้งที่ 1 วงเงิน 15,000 ล้านบาท รุ่นอายุ 3 ปี และ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 1.70% และ 1.95% ต่อปีตามลำดับ โดยจะเปิดให้ผู้ถือกรรมสิทธิ์พันธบัตรออมทรัพย์ที่ครบกำหนด (SB19DA) ในวันที่ 13 ธ.ค. 62 สามารถจองซื้อวงเงินพันธบัตรออมทรัพย์ได้ก่อนในวันที่ 9 - 11 ธ.ค. 62 ผ่าน BOND DIRECT Application และ Line@bonddirect
ส่วนการเปิดจำหน่ายเป็นการทั่วไปจะเริ่มจำหน่ายในวันที่ 13 ธ.ค. 62 ตั้งแต่เวลา 8.30 น. เป็นต้นไป โดยผ่านช่องทางของธนาคารตัวแทนจำหน่าย 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ โดย สบน. ได้กำหนดวงเงินซื้อพันธบัตรขั้นต่ำไว้ที่ 1,000 บาท และไม่มีข้อจำกัดถึงวงเงินสูงสุดในการซื้อ อย่างไรก็ตาม ผู้มีสิทธิ์ซื้อพันธบัตรดังกล่าวจะต้องบุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทยหรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย สภากาชาดไทย มูลนิธิ สมาคม วัด สถานศึกษาของรัฐ โรงพยาบาลของรัฐหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไร
(2) พันธบัตรออมทรัพย์รุ่นพิเศษของกระทรวงการคลัง วงเงิน 5,000 ล้านบาท รุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป โดยเป็นพันธบัตรทยอยชำระคืนเงินต้นที่ผู้ถือพันธบัตรออมทรัพย์จะได้รับเงินต้นและดอกเบี้ย (Amortized Bond) โดยปีที่ 1 จะได้รับดอกเบี้ยทุก 6 เดือน จากนั้นในปีที่ 2 - 5 จะได้รับดอกเบี้ยและเงินต้นตามวงเงินคงค้าง เพื่อให้ผู้สูงอายุที่ต้องการออมเงินระยะสั้นและได้รับเงินต้นคืนเพื่อการใช้จ่ายปัจจุบัน
โดยการเปิดจำหน่ายพันธบัตรดังกล่าว สบน. จะดำเนินการผ่านตัวแทนจำหน่ายทั้ง 4 แห่ง ล่วงหน้าเป็นเวลา 1 วันคือตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค. 62 ถึง 24 เม.ย. 64 สำหรับผู้ซื้อพันธบัตรที่ซื้อผ่าน Bond Direct Application และชำระเงินผ่าน KTB Next หรือเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย ส่วนผู้ที่ต้องการซื้อพันธบัตรผ่านช่องทาง ATM/ Counter/Internet Banking/ Mobile Application ของธนาคารตัวแทนจำหน่าย 4 แห่งนั้น สามารถดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค.62 ถึง 24 เม.ย. 63
ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิ์ซื้อพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นพิเศษฯ จะต้องเป็นบุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทยซึ่งมีอายุครบ 60 ปีขึ้นไป โดยมีวงเงินซื้อต่อรายอยู่ที่ 1,000 บาท แต่กำหนดวงเงินขั้นสูงต่อรายต้องไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อธนาคาร ส่วนเงื่อนไขการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยนั้นกำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน และคืนเงินต้น 8 งวดๆ ละเท่ากันในปีที่ 2 - 5
นางแพตริเซีย ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า หากลงทุนในพันธบัตรรุ่นอายุ 5 ปีนี้ ผู้ลงทุนจะได้รับดอกเบี้ยรวมเป็นเงิน 60,000 บาท แต่การลงทุนในพันธบัตรนี้จะมีข้อดีคือผู้สูงอายุจะได้รับคืนเงินต้นเพื่อนำไปใช้จ่ายโดยไม่จำเป็นต้องรอให้ครบอายุพันธบัตร แต่หากผู้สูงอายุได้เสียชีวิตก่อนพันธบัตรจะครบกำหนดแล้ว พันธบัตรดังกล่าวจะตกทอดไปสู่ลูกหลานได้อีก
อย่างไรก็ตาม หากผู้ลงทุนต้องการดอกเบี้ยสูง และภายในระยะเวลา 3-7 ปี ผู้ลงทุนยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินแล้ว ผู้อำนวยการ สบน. แนะนำให้ถือพันธบัตรรุ่นธรรมดาที่มีอายุ 3 ปี และ 7 ปี เนื่องจากจะคุ้มค่ามากกว่าจากที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากประจำโดยเฉลี่ยล่าสุดจะอยู่ที่ 1.6% ต่อปี โดย สบน. จะให้ดอกเบี้ยพันธบัตรในอัตราที่สูงกว่าผลตอบแทนพันธบัตอายุ 3 ปีในตลาดที่ให้ดอกเบี้ยไว้ที่ 1.3% ซึ่งต่ำกว่าเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยที่ สบน. จ่ายให้ที่ 1.7% ขณะที่พันธบัตรอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยที่ตลาดใหเไว้จะอยู่ที่ 1.5% ซึ่งต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยจาก สบน. ที่ให้ไว้ 1.95%
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการ สบน. กล่าว้พิ่มเติมว่า สบน. ยังจะจัด workshop ให้แก่ประชาชนและผู้สนใจทดลองใช้ BOND DIRECT Application ในวันที่ 4 ธ.ค.62 ด้วย ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสมัครได้ผ่านทาง Facebook ของ สบน. และศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการจำหน่ายพันธบัตรและ BOND DIRECT Application ได้ที่ http://www.pdmo.go.th