“บี.กริม เพาเวอร์” ปิดการเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ มูลค่ารวม 8 พันล้านบาท นักลงทุนตอบรับดี

BGRIM ปิดการเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ มูลค่ารวม 8 พันล้านบาท นักลงทุนตอบรับดี เหตุมั่นใจในความแข็งแกร่ง บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนต่อเนื่อง

บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนชั้นนำของไทย ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ โดยนักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้นกู้รวมส่วนสำรองการเสนอขายทั้งสิ้น 8 พันล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากนักลงทุนมั่นใจในความแข็งแกร่งของกิจการ ล่าสุดบริษัทฯ ลงนามในสัญญาร่วมพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิง LNG ขนาดกำลังการผลิต 3,000 เมกะวัตต์ในเวียดนาม พร้อมประกาศเดินหน้าขยายการลงทุนต่อเนื่อง

นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (หรือ BGRIM) กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจลงทุนในหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ของบริษัทฯ เป็นจำนวนมากนั้น นอกจากจะมาจากผลตอบแทนของหุ้นกู้ที่น่าสนใจแล้ว ปัจจัยสนับสนุนสำคัญที่สุดในการตัดสินใจลงทุนในหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ของนักลงทุน คือ ความมั่นใจในความแข็งแกร่งของกิจการและแผนการขยายธุรกิจอย่างมั่นคงของ BGRIM

"บริษัทฯ ต้องขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่าน รวมถึงผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 6 แห่ง ซึ่งได้แก่ ธ.กรุงเทพ ธ.กรุงไทย ธ.กสิกรไทย ธ.ไทยพาณิชย์ บล.ภัทร และ บล.เอเซีย พลัส ที่ทำให้การเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ครั้งแรกของบริษัทฯ ประสบความสำเร็จด้วยดี ซึ่งเรารู้สึกภูมิใจมากที่หุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ของเราได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งนักลงทุนรายย่อย นักลงทุนสถาบัน รวมถึงมูลนิธิหลายแห่งซึ่งได้ร่วมลงทุนในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในบริษัทฯ ทั้งในด้านความแข็งแกร่งด้านการเงิน และการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งการระดมทุนครั้งนี้จะทำให้โครงสร้างทางการเงินของ BGRIM มีความแข็งแกร่งมากขึ้น สอดรับกับแผนการขยายการลงทุนของบริษัทฯ ในอนาคต" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BGRIM กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการใหม่อีกเป็นจำนวนมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ในประเทศเกาหลีใต้ เวียดนาม กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย เป็นต้น โดยในส่วนของโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาได้ทยอยลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าและดำเนินการก่อสร้างในประเทศไทย โอมาน และฟิลิปปินส์ รวมแล้วกว่า 60 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน "Thailand Sustainability Investment (THSI)" ประจำปี 2562 ประกาศโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำเป้าหมายการเป็นบริษัทเอกชนชั้นนำระดับสากลที่มีความโดดเด่น และดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม และธรรมาภิบาล

ล่าสุดบริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาความร่วมมือกับบริษัท ปิโตร เวียดนาม เพาเวอร์ เพื่อร่วมศึกษาและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 3,000 เมกะวัตต์ โดยใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เป็นเชื้อเพลิง รวมถึงโครงการนำเข้าและจำหน่าย LNG เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับโรงผลิตไฟฟ้าในประเทศเวียดนาม โดยโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิง LNG ดังกล่าวแบ่งเป็นโครงการที่บริษัท ปิโตร เวียดนาม เพาเวอร์ เดินเครื่องแล้วตั้งแต่ปี 2557 กำลังการผลิตเฟสแรกขนาด 1,500 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในจังหวัดกาเมา (Ca Mau) ส่วนอีก 1,500 เมกะวัตต์อยู่ในแผนขยายลงทุนในเฟส 2 ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน