xs
xsm
sm
md
lg

เจดับเบิ้ลยูดีฯ เปิดตัวห้องเย็นโรโบติกส์สาธารณะแห่งแรกใหญ่ที่สุดในไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ เปิดตัว ‘ห้องเย็นโรโบติกส์’ แห่งใหม่ในย่านมหาชัย เพื่อให้บริการแบบสาธารณะเป็นรายแรกในไทยและมีพื้นที่จัดเก็บสินค้ามากที่สุดถึง 7,000 ตารางเมตร นำระบบจัดเก็บสินค้าแบบอัตโนมัติ (ASRS) ใช้ในการเคลื่อนย้ายและจัดเรียงสินค้า ลดการใช้แรงงาน และประหยัดพลังงานไฟฟ้า ขณะนี้มีการใช้พื้นที่เกิน 80% เล็งลงทุนขยายห้องเย็นโรโบติกส์เพิ่ม

นายจิตชัย นิมิตรปัญญา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และซัปพลายเชนระดับอาเซียน เปิดเผยว่า บริษัทฯ เปิดตัวห้องเย็นระบบโรโบติกส์แห่งใหม่ (อาคาร 8) ที่เปิดให้บริการแบบสาธารณะแก่ลูกค้าทั่วไปเป็นแห่งแรกและมีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ในย่านมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อตอบสนองความต้องการจัดเก็บสินค้าควบคุมอุณหภูมิของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารที่ยังคงขยายตัวได้ดี จึงเห็นโอกาสขยายการลงทุนห้องเย็นแห่งใหม่ โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/62 ภาพรวมการดำเนินงานคลังสินค้าห้องเย็นของ JWD มีอัตราเช่าพื้นที่เฉลี่ย 73% ของพื้นที่รวม 70,327 ตารางเมตร

ห้องเย็นระบบโรโบติกส์แห่งใหม่ใช้งบลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท (ที่ดินและค่าก่อสร้าง) เริ่มเปิดบริการเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีพื้นที่รวม 7,000 ตารางเมตร ใช้เทคโนโลยีบริหารจัดการที่ทันสมัย โดยติดตั้งระบบจัดเก็บสินค้าแบบอัตโนมัติ หรือ Automated Storage Retrieval System (ASRS) จึงสามารถจัดเก็บสินค้าได้อย่างรวดเร็ว มีความแม่นยำและความปลอดภัยสูง รวมถึงสามารถจัดเก็บสินค้าในแนวสูงได้ถึง 14 ชั้น รวมประมาณ 15,000 พาเล็ต แต่ใช้ที่ดินก่อสร้างอาคารเท่าเดิม


"จุดเด่นของห้องเย็นแห่งใหม่คือ การติดตั้งเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ ASRS ตั้งแต่การเคลื่อนย้ายสินค้าที่รับจัดเก็บเข้าสู่ห้องเย็น การจัดเรียงสินค้าในแนวสูง และการขนย้ายออกจากห้องเย็น จึงสามารถลดการใช้แรงงานลงได้ 50% และประหยัดพลังงานไฟฟ้าภายในอาคารได้ประมาณ 30-50% เมื่อเทียบกับคลังสินค้าห้องเย็นแบบเดิมที่ใช้การจัดเรียงด้วยระบบแมนนวลและต้องใช้เนื้อที่ค่อนข้างมาก" นายจิตชัยกล่าว

นายจิตชัยกล่าวว่า หลังจากบริษัทฯ เปิดบริการห้องเย็นระบบโรโบติกส์ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-ตุลาคมที่ผ่านมาถือว่ามีผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ มีอัตราการเช่าพื้นที่เกิน 80% ของพื้นที่จัดเก็บสินค้า และถึงจุดทำกำไรได้แล้ว ซึ่งถือว่ารวดเร็วกว่าเดิมที่ตั้งเป้าหมายเริ่มทำกำไรภายในระยะเวลา 12-18 เดือนนับจากเริ่มเปิดให้บริการ โดยส่วนใหญ่เป็นการจัดเก็บสินค้าอาหารทะเลที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ และคาดว่าอัตราการเช่าพื้นที่ห้องเย็นระบบโรโบติกส์จะเพิ่มขึ้นได้อีกในปีหน้า


จากผลตอบรับที่ดีกว่าเป้าหมาย บริษัทฯ จึงมีแผนงานขยายการลงทุนคลังสินค้าห้องเย็นระบบโรโบติกส์อาคารใหม่เพิ่มเติมภายในพื้นที่โครงการมหาชัย เพื่อรองรับปริมาณจัดเก็บสินค้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนและการออกแบบงานระบบต่างๆ โดยจะนำประสบการณ์และองค์ความรู้จากการก่อสร้างห้องเย็นระบบโรโบติกส์แห่งแรกมาปรับใช้ จึงคาดว่าจะสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการลงทุนได้ดีกว่าเดิม ส่งผลดีต่อระยะเวลาการคืนทุนที่รวดเร็วยิ่งขึ้น

สำหรับกรณีที่สหรัฐอเมริกาประกาศเตรียมตัดสิทธิ GSP (Generalized System of Preference) หรือสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร มั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นของ JWD เนื่องจากลูกค้าที่เช่าพื้นที่ในปัจจุบันมีสัดส่วนส่งออกสินค้าไปอเมริกาน้อยมาก และส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแบบบรรจุกระป๋อง ซึ่งไม่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ GSP ดังกล่าว

“ในช่วงที่ผ่านมาเรายังคงได้รับการติดต่อจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารที่ต้องการนำสินค้ามาจัดเก็บอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มห้องเย็น JWD มีประสบการณ์ดำเนินธุรกิจห้องเย็นมากว่า 20 ปี เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นรายใหญ่ที่ผ่านมาตรฐานรับรองการทำประมงจากธรรมชาติอย่างยั่งยืน รวมทั้งใบอนุญาตอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับทำเลมหาชัยถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของอุตสาหกรรมประมงและอาหารทะเล จึงมั่นใจว่ายังคงมีความต้องการใช้พื้นที่เพื่อจัดเก็บสินค้าอย่างต่อเนื่อง” นายจิตชัยกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น