รมว.คลัง หารือ ก.อุตฯ-แบงก์รัฐ-แบงก์พาณิชย์ เตรียมออกมาตรการอุ้มผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องปิดกิจการหลังแบกรับผลกระทบจากเศรษฐกิจ และพร้อมให้ “อธิบดีกรมสรรพาสามิต” ศึกษาแนวทางลดภาษีน้ำมันไอพ่นเพื่อช่วยอุ้มโลว์คอสต์แอร์ไลน์ ในขณะเกียวกัน ยังพร้อมหารือ “การบินไทย” ให้บริการแทนหากโลว์คอสต์หยุดบินตามคำขู่
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการจัดเตรียมมาตรการเพื่อดูแลช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบให้ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมากที่กำลังต้องปิดกิจการหลังแบกรับผลจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงอุตสาหกรรม สถาบันการเงินของรัฐ และธนาคารพาณิชย์ ในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากโรงงานอุตสาหกรรมของไทยโดยส่วนใหญ่จะพึ่งพาการส่งออกเป็นสำคัญ และเมื่อภาคส่งออกหดตัวจึงทำให้โรงงานหลายแห่งต้องได้รับผลกระทบจนต้องปิดกิจการลง
อย่างไรก็ตาม กระทรวงอุตสาหกรรมได้มีแนวทางที่จะดูแลโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบอยู่แล้ว แต่กระทรวงการคลังเองก็ต้องเข้าไปช่วยกระทรวงอุตสาหกรรมด้วย และที่ผ่านมา ตนได้หารือกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ถึงแนวทางการช่วยเหลือดังกล่าวไปในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการพิจารณาลงลึกไปในรายละเอียดอย่างชัดเจน โดยต้องหาสาเหตุของการปิดโรงงานในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการพิจารณาเพื่อหาแนวทางบรรเทาปัญหาให้แก่ผู้ประกอบการเหล่านี้อย่างเป็นรูปธรรมและรวดเร็วที่สุดด้วย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า แม้ปัจจุบันอาจมีโรงงานอุตสาหกรรมที่ประกาศปิดกิจการเป็นจำนวนมากก็ตาม แต่ก็ยังมีกิจการเกิดใหม่ของหลายๆ โรงงานอุตสาหกรรมด้วยเช่นกัน ซึ่งตนถือว่ายังเป็นภาวะที่ไม่น่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ได้เน้นทั้งในเรื่องการพัฒนาฐานราก และการพัฒนาระดับอื่นๆ ในทุกภาคส่วน ซึ่งถือเป็นการเดินหน้าดูแลเศรษฐกิจที่ตอบโจทย์ประเทศ
นอกจากนี้ นายอุตตม ยังกล่าวถึงการพิจารณาข้อเรียกร้องของสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) ที่ขอให้กรมสรรพสามิตลดภาษีน้ำมันไอพ่น ว่า ตนได้สั่งการให้นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ไปศึกษาข้อเสนอของผู้ประกอบการกลุ่มนี้อย่างรอบด้านว่าอัตราภาษีดังกล่าวนี้เป็นอย่างไร และกรมสรรพสามิตจะสามารถดำเนินการปรับลดให้ได้ตามข้อเรียกร้องหรือไม่ เนื่องจากเรื่องดังกล่าวมีผลกระทบหลายฝ่าย ทั้งนี้ การพิจารณาต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 62
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังย้ำถึงการพิจารณเรื่องดังกล่าวว่า จะต้องไม่เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำกับภาคขนส่งอื่นๆ ที่เสียภาษีสรรพสามิตน้ำมันด้วย ดังนั้น จึงต้องดูผลกระทบจากทุกด้าน อีกทั้งต้องพิจารณาด้วยว่าหากกรมสรรพสามิตยืนยันจะไม่มีการปรับลดภาษีน้ำมันไอพ่นลงแล้วจะมีผลต่ออุตสาหกรรมการบินในภาพรวมอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ ในปัจจุบันกรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีน้ำมันสำหรับเครื่องบินไอพ่นต่ำกว่าการจัดเก็บภาษีน้ำมันสำหรับผู้ประกอบการขนส่งอื่นราว 3-4 เท่า ดังนั้น จึงต้องพิจารณาตามความเหมาะสมด้วย และหากจะต้องปรับลดให้แก่ผู้ประกอบการสายการบินก็ต้องให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน
ด้านนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มีการหารือกับบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI โดยการบินไทยยืนยันว่าพร้อมบินในเส้นทางบินที่สายการบินโลว์คอสต์แอร์ไลน์หยุดทำการบิน หากได้รับผลกระทบจากปัญหาด้านต้นทุนราคาน้ำมัน ดังนั้น เชื่อว่าประชาชนจะไม่ได้รับผลกระทบจากการหยุดให้บริการของสายการบินโลว์คอสต์อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม กรมสรรพสามิตพร้อมที่จะดำเนินการตามนโยบายกระทรวงการคลังในการศึกษาแนวทางลดภาษีน้ำมันไอพ่นอย่างรอบด้าน ก่อนที่จะเสนอผลการพิจารณาให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังตัดสินใจอีกครั้ง