หุ้น บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR เพิ่งทำให้นักลงทุนที่จองซื้อต้องน้ำตาตกไม่กี่วันก่อนหน้า หุ้นบริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC ก็ถูกส่งเข้ามาสร้างความเสียหายให้นักลงทุนที่จองซื้อซ้ำเติมอีก
หุ้นน้องใหม่ 2 บริษัทติดๆ แล้วที่ทำให้นักลงทุนต้องเจ็บหนัก เพราะราคารูดลงต่ำจอง โดย SHR เข้ามาซื้อขาย เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ราคาจอง 5.20 บาท/หุ้น แต่วันแรกรูดลงมาปิดที่ 4.14 บาท ต่ำกว่าจอง 1.06 บาท หรือต่ำกว่าจอง 20.38%
ส่วน BC เข้ามาซื้อขายวันที่ 14 พฤศจิกายน ราคาจอง 2.86 บาท แต่ราคารูดลงมาปิดที่ 2 บาท ลดลง 86 สตางค์ หรือลดลง 30.07%
อันดับหุ้นใหม่ที่สร้างความเสียหายให้นักลงทุนมากที่สุดประจำปี 2562 ต้องยกให้ BC เพราะราคาต่ำกว่าจองมากที่สุด
หุ้น SHR นับว่าแย่แล้ว แต่ BC กลับแย่กว่า
BC เป็นผลงานของบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน นำเข้าจดทะเบียนในตลาด mai โดยนำหุ้นจำนวน 167 ล้านหุ้น เสนอขายนักลงทุนในราคา 2.86 บาท สูบเงินจากนักลงทุนไปทั้งสิ้น 477.62 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด เคยเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ PACE ซึ่งเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ด้วยเกณฑ์มาร์เกตแคป หรือเกณฑ์มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเมื่อปี 2556
เกณฑ์มาร์เกตแคปขณะนั้นกำหนดไว้ที่ 5,000 ล้านบาท ปัจจุบันปรับขึ้นเป็น 7,500 ล้านบาท โดยบริษัทที่มีมาร์เกตแคปสูงกว่า 5,000 ล้านบาท สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ แม้ผลประกอบการจะขาดทุนก็ตาม
PACE ไม่ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ผิดหวัง เพราะก่อนเข้าจดทะเบียน ผลประกอบการขาดทุน และตลอด 6 ปีที่เข้าจดทะเบียน ผลประกอบการขาดทุนตลอด
ส่วนหุ้นที่เสนอขายประชาชนทั่วไปในราคา 3.50 บาท ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนเหลือเพียง 7 สตางค์
สภาพการซื้อขายหุ้น BC ในวันแรก ไม่แตกต่างจากหุ้น SHR เพราะไม่รู้ว่าแรงขายทะลักออกมาจากไหน ซึ่งนักลงทุนที่จองซื้อไว้ ไม่น่าจะเทขาย ทำให้ต้องสันนิษฐานว่า ผู้ถือหุ้นเดิมอาจเทขาย
ราคาจองหุ้น BC ที่ 2.86 บาท เป็นราคาที่สูงมาก ค่าพี/อี เรโช เฉียด 100 เท่า และอาจมีผู้ถือหุ้นเดิมรอจังหวะขายหุ้นอยู่แล้ว เช่นเดียวกับหุ้น SHR เมื่อหุ้นเข้าจดทะเบียนได้จึงถล่มขายทันที จนราคารูดต่ำกว่าจองระดับ 20-30% ซึ่งไม่น่าเกิดขึ้นได้ ถ้าหุ้นที่เสนอขายประชาชนทั่วไปกำหนดราคาอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม
ตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งพิจารณารับหุ้น SHR และ BC เข้าจดทะเบียน อาจปฏิเสธความรับผิดชอบการมีส่วนร่วมสร้างความเสียหายให้นักลงทุน เพราะมีคาถาป้องกันตัวเอง ด้วยข้อความ “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุน”
และอาจอ้างได้ว่า การพิจารณาอนุมัติรับหุ้นใหม่เข้ามาจดทะเบียนเป็นไปตามหลักเกณฑ์ บริษัทใดที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีนายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นประธาน จะพิจารณารับหมด
แม้จะเป็นบริษัทเน่าๆ ที่ได้รับการแต่งตัว หรือแต่งงบการเงินจากบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อตบตาคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ก็ตาม
ความเสียหายจากหุ้นใหม่ระดับ 20%-30% ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ และปีนี้มีหุ้นใหม่ที่สร้างความเสียหายให้นักลงทุนตั้งแต่วันแรกที่เข้าซื้อเกินกว่า 20% แล้วถึง 3 บริษัท โดยก่อนหน้าคือ บริษัท อรินสิริ แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ ARIN ซึ่งเข้าจดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ราคาจอง 1.80 บาท แต่ซื้อขายวันแรกปิดที่ 1.43 บาท ต่ำกว่าจอง 37 สตางค์ หรือต่ำกว่าจอง 20.56%
ล่าสุด ARIN รูดลงเหลือเพียง 66 สตางค์ ต่ำกว่าจอง 1.14 บาท หรือต่ำกว่าจองกว่า 60%
หุ้นใหม่ที่นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะประชาชนให้ความเชื่อถือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เชื่อว่าจะทำหน้าที่กลั่นกรองบริษัทที่ดีเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้น และคงไม่ปล่อยหุ้นเน่าๆ เข้ามาสร้างความเสียหายให้นักลงทุน
แต่กลับมีหุ้นเน่าหลุดรอดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเข้ามาตายซากคากระดานหุ้นนับไม่ถ้วน ถูกตะเพิดออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนก็ไม่น้อย และยังรอการถูกตะเพิดอีกนับสิบๆ บริษัท สร้างความเสียหายให้นักลงทุนจำนวนนับแสนราย
นโยบายการรับหุ้นใหม่คงต้องทบทวนใหม่ เป้าหมายการรับหุ้นใหม่ไม่ในเชิงปริมาณ แต่ละปีรับกันหลายสิบบริษัท ควรต้องเลิก และหันกลับมาสู่ นโยบายการรับหุ้นใหม่ในเชิงคุุณภาพ
ปีๆ หนึ่งอาจรับหุ้นใหม่เพียงไม่กี่บริษัท แต่หุ้นที่ผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ จะต้องเป็นหุ้นดีมีคุณภาพ
และไม่ปล่อยให้ หุ้นใหม่เข้ามาสร้างความเสียหายร้ายแรงให้นักลงทุน เช่นเดียวกับหุ้น BC และ SHR