ไทยอุตสาหกรรมพลาสติกฯ เดินหน้าปรับยุทธศาสตร์เพิ่มไลน์โปรดักต์ใหม่เสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ เตรียมคลอดผลิตภัณฑ์แบรนด์ “B-LEAF” ล็อต 2 เร็วๆ นี้ หลังโชว์ตัวเลขงบ 9 เดือนแรกของปี 62 มีรายได้รวมแตะ 386.34 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ 24.10 ล้านบาท หลังปรับกลยุทธ์การขายเน้นเพิ่มมาร์จิ้น และควบคุมต้นทุน
นายธีระชัย ธีระรุจินนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) จำกัด (มหาชน) หรือ TPLAS เปิดเผยว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ หรืออย่างช้าสุดต้นปี 2563 บริษัทฯ เตรียมวางจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “B-LEAF” ล็อตที่ 2 จำนวน 900,000 กล่อง พร้อมทั้งอยู่ระหว่างการศึกษาแผนการขยายไลน์โปรดักต์ใหม่เพิ่มขึ้นอีก 1-2 ผลิตภัณฑ์ เพื่อสอดรับกับความต้องการใช้ของผู้บริโภค โดยเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปภายในเร็วๆ นี้ รวมถึงจะเห็นภาพการลงทุนหลังจากนี้ต่อไปได้ชัดเจน
ส่วนผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2562 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 126.50 ล้านบาท ลดลง 13.31 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9.52% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่มีกำไรสุทธิ 8.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.61 ล้านบาท หรือคิดเป็น 68.50% เมื่อเทียบจากปีก่อน ขณะที่รายได้รวมในงวด 9 เดือนแรกอยู่ที่ 386.34 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิที่ 24.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.39% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ สำหรับอัตราการปรับตัวที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์การขาย โดยเน้นการเพิ่มมาร์จิ้น รวมถึงบริษัทฯ มีวิธีการบริหารจัดการในการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายโดยการทำกำไร จากการปรับเพิ่มส่วนต่างระหว่างราคาขายกับราคาวัตถุดิบที่เปลี่ยนแปลงได้ดี ขณะที่ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ถุงบรรจุอาหารและถุงหูหิ้ว พร้อมทั้งฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร ยังคงมีความต้องการใช้อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า หรือ ผู้ประกอบการที่มีความจำเป็นในการใช้ผลิตภัณฑ์บรรจุอาหาร ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการแตกไลน์ไปยังผลิตภัณฑ์ใหม่ ประเภทกล่องบรรจุอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้แบรนด์ “B-LEAF (บี-ลีฟ)” มาทดแทนการลดใช้กล่องโฟม
ต้องยอมรับว่าผลิตภัณฑ์ของ TPLAS ในทุกแบรนด์สินค้าสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้ทุกๆ กลุ่มเป้าหมาย โดยบริษัทฯ เน้นกลุ่มฐานลูกค้าประเภทยี่ปั๊ว ซาปั๊ว เป็นหลัก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีฐานตลาดกว้างและกระจายไปทั่วประเทศ ซึ่งถือว่ามีความแข็งแกร่งที่เข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งในเรื่องของยอดขายทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง