EVER โชว์ผลประกอบการ 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 435.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 300% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 199.38 ล้านบาท ส่วนงวดไตรมาส 3/62 กำไรพุ่งแตะ 0.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากการบริหารต้นทุนได้ดี และรับรู้ยอดโอนจากโครงการแนวสูง-แนวราบต่อเนื่อง ขณะที่ “สวิจักร์ โลจายะ” ประธานกรรมการ ประเมินโค้งสุดท้ายทิศทางธุรกิจยังส่งสัญญาณบวก เดินหน้ารับรู้รายได้เพิ่มจากโครงการในมือ เล็งผุดโครงการบ้านเดี่ยวสุวินทวงศ์ เฟสใหม่ มั่นใจผลงานปี 62 สร้างสถิติสูงสุดใหม่
นายสวิจักร์ โลจายะ ประธานกรรมการ บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) (EVER) ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “เดอะโพลิแทน” ทำเลย่านสนามบินน้ำ โครงการแนวราบ บ้านเดี่ยว แบรนด์ “มายโฮม อเวนิว” และทาวน์โฮม แบรนด์ “เอเวอร์ ซิตี้” เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปีนี้มีกำไรสุทธิ 435.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 300% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 199.38 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 4,353.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 442% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้เท่ากับ 803.87 ล้านบาท
ขณะที่งวดไตรมาส 3/62 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 62) มีกำไรสุทธิ 0.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 42 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 471 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.36% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้เท่ากับ 464 ล้านบาท
สาเหตุที่ผลประกอบการไตรมาส 3/62 ของกลุ่มบริษัท EVER เติบโตขึ้น โดยเฉพาะมีกำไรสุทธิ เนื่องจากสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีการปรับราคาสำหรับขายใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 20% ในโครงการคอนโดมิเนียม ขณะเดียวกัน มียอดโอนจากโครงการต่างๆ ได้แก่ เดอะโพลิแทน รีฟ เฟส 1 มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการทยอยรับรู้เพิ่มขึ้น โครงการทาวน์โฮม แบรนด์ “เอเวอร์ ซิตี้” สุขสวัสดิ์ มูลค่าโครงการ 400-500 ล้านบาท ซึ่งได้เปิดขายปลายเดือนมีนาคม 2562 ได้ทยอยรับรู้เข้ามาประมาณ 60% และโครงการบ้านเดี่ยว แบรนด์ "มายโฮม อเวนิว" เริ่มทยอยเข้ามาบางส่วน
"ผลประกอบการไตรมาส 3 ปีนี้ได้เห็นการเติบโตที่ชัดเจนของกำไรสุทธิ เพราะการบริหารต้นทุนที่ดี และมีการรับรู้ในส่วนโครงการทาวน์โฮมมากขึ้น ซึ่งเป็นโครงการใหม่ที่ประกาศเปิดขายไปในช่วงต้นปีมีจำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท และมีผลตอบรับดีจากลูกค้า ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์นั้น ช่วยลดภาระให้แก่ผู้ซื้อที่อยู่อาศัย ทั้งลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการโอนจากเดิม 2% เหลือ 0.01% และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จาก 1% เหลือ 0.01% สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยไม่เกิน 3 ล้านบาท ก็จะเป็นผลดีต่อบริษัทฯ ส่วนโครงการบ้านเดี่ยวสุวินทวงศ์ เฟสใหม่ อยู่ระหว่างการพัฒนาที่จะเปิดขายเร็วๆ นี้"