“เรียลแอสเสทฯ” ปรับกลยุทธ์รับกระแสตลาดอสังหาฯ แข่งขันสูง พร้อมเน้นเรื่องคุณภาพก่อสร้าง ใส่ใจบริการแก่ลูกค้าผ่านวิสัยทัศน์ We build real matters for living ฟันธงทำเลบางนา-สุวรรณภูมิ มีศักยภาพสูง เผยยอดขายโครงการแนวราบ 10 เดือน กว่า 600 ลบ.ลุยปี 63 เปิด 3 โครงการใหม่ กว่า 2,600 ลบ.
นายบดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ REAL ASSET กล่าวถึงแนวทางพัฒนาธุรกิจของบริษัทฯ ว่า ยังคงเน้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งประเภทแนวสูง (คอนโดมิเนียม) และแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ โฮมออฟฟิศ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงหลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่ (LTV) ที่เริ่มใช้วันที่ 1 เมษายน 62 ที่ผ่านมา ทำให้ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายในของตัวลูกค้า เช่น ปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง ส่งผลต่อความเข้มงวดต่อการยื่นขอสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ และยังมีปัจจัยภายนอกประเทศ เช่น ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ปัญหาการประท้วงในฮ่องกง และแนวโน้มกำลังซื้อจากต่างชาติลดลง โดยเฉพาะจากประเทศจีน เป็นต้น
ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในโซนภาคตะวันออก เป็นทำเลที่มีศักยภาพที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งเรื่องการเดินทาง มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (สำโรง-ลาดพร้าว) มีแหล่งที่อยู่อาศัย และหากในอนาคตเกิดโครงการรถไฟรางเบา (LRT) ที่จะวิ่งจากบางนา-สุวรรณภูมิ จะสร้างความคึกคักและเพิ่มศักยภาพของการอยู่อาศัยมากขึ้น ล่าสุด โครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบินได้รับการลงนามเป็นที่เรียบร้อย
“ปีนี้จึงเป็นบททดสอบที่สำคัญให้บริษัทฯ ต้องปรับกลยุทธ์ในครึ่งปีหลังและต่อเนื่องถึงปี 2563 นี้อย่างรอบคอบ โดยเฉพาะในเรื่องของคุณภาพการก่อสร้างและการใส่ใจในการบริการที่มีต่อลูกค้า ผ่านวิสัยทัศน์ We build real matters for living เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสถึงความคุ้มค้าที่ได้รับจากโครงการผ่านทางคุณภาพบ้าน รวมถึงการใส่ใจในเรื่องสุขภาพ ที่ปัจจุบันเทรนด์ Active Wellness มาแรง โดยจะมีการนำร่องในโครงการ เซนส์ บางนา-สุวรรณภูมิ ที่ออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวรวมมากถึง 29,600 ตร.ม. มีพื้นที่ปั่นจักรยาน 2,600 ตร.ม. และลู่วิ่ง ความยาวถึง 7,400 ตร.ม.”
นายวีระชัย หาญจริยากูล ผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์ ธุรกิจบ้านจัดสรรและอาคารพาณิชย์ บริษัท เรียลแอสเสทฯ กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบเริ่มปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3 หลังจากตลาดชะลอตัวช่วงประกาศใช้มาตรการ LTV โดยช่วง 10 เดือน ยอดขายโครงการแนวราบสามารถทำยอดขายได้ดี 600 ล้านบาท มาจากโครงการโฮมออฟฟิศ คาสเคด บางนา บ้านเดี่ยวโครงการ วีรัณยา วงแหวน-อ่อนนุช ทาวน์โฮม เพล็กซ์ เกษตร-นวมินทร์ และบ้านแนวคิดใหม่ โครงการเซนส์ สายไหม 56
“ตลาดโครงการแนวราบการแข่งขันสูง เนื่องจากผู้ประกอบการหลายค่ายหันมาเล่นตลาดแนวราบมากขึ้น ซึ่งในส่วนของบริษัทก็มีจุดแข็งหลายด้าน มีเครือข่ายทางธุรกิจที่พร้อมสนับสนุน”
ปัจจุบัน บริษัทมีที่ดินผืนใหญ่อยู่บนทำเลบางนา-สุวรรณภูมิ ประมาณ 180 ไร่ มีแผนจะทยอยนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในกลุ่มแนวราบต่อเนื่องได้ถึง 8 ปี หรือมีมูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ล่าสุด บริษัทฯ ได้นำที่ดิน 23 ไร่ มาพัฒนาโครงการ เซนส์ บางนา-สุวรรณภูมิ รูปแบบทาวน์โฮมและบ้านแฝด จำนวน 160 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 810 ล้านบาท แบ่งพัฒนาเป็น 4 เฟสๆ ละ 40 ยูนิต ราคาตั้งแต่ 4.99-6 ล้านบาท ซึ่งในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 จะเปิดรอบวีไอพีก่อน
ในส่วนแผนพัฒนาโครงการในปี 2563 บนที่ดินผืนนี้จะมีทั้งโครงการทาวน์โฮม แบรนด์ สตอรี่ส์ จำนวน 200 ยูนิต โครงการบ้านเดี่ยว แบรนด์ วีรัณยา จำนวน 150 ยูนิต รวมทั้ง 2 โครงการ มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท และโครงการบริเวณสุขาภิบาล 2 ภายใต้แบรนด์ เพล็กซ์ ที่จะเปิดกลางปี 63 จำนวน 227 ยูนิต มูลค่ากว่า 1,100 ล้านบาท
นายบดินทร์ธร กล่าวต่อว่า เรียลแอสเสท ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดวิสัยทัศน์เรื่องการนำ Robotic Construction โดยได้เชิญ นายซาเจ บูชาน ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ซาฮ่าโค้ด มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับ “Robotic Construction กับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์” ซึ่งเชื่อว่า ภายใน 5-10 ปีข้างหน้านี้ AI และ parametric design จะเปลี่ยนวงการอสังหาริมทรัพย์ การออกแบบ และก่อสร้างใหม่ทั้งหมด ซึ่งการก่อสร้างแบบดั้งเดิมที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้ก็จะค่อยๆหายไปและถูกแทนที่โดยหุ่นยนต์
“ผมเชื่อว่า Robotic Construction จะสามารถยกระดับคุณภาพงานก่อสร้าง เพิ่มประสิทธิภาพด้านความรวดเร็วและแม่นยำ ลดขั้นตอนการทำงาน รวมทั้งลดจำนวนแรงงาน และยังสามารถเพิ่มการทำ customization เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้เรียลแอสเสท ถือเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เจ้าแรกของประเทศไทยที่ได้นำ “Robotic Construction” มาใช้กับการออกแบบและก่อสร้าง โดยขั้นต้นเตรียมศึกษาเพื่อนำมาใช้ในพื้นที่ส่วนกลางของ Real Square ในรุปแบบ Sculpture หรือ pavilion”
