บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA รับอานิสงส์ ครม.ไฟเขียวเพิ่มพื้นที่อุตสาหกรรมใน EEC ขณะที่วันนี้ประกาศงบไตรมาส 3/62 คาดผลกำไรโตแตะ 1.5 พันล้านบาท ส่วนไตรมาส 4/62 เชื่อยังทำนิวไฮต่อ ประเมินราคาเป้าหมาย 56-60.25 บาท/หุ้น
หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันพุธที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมามีมติอนุมัติให้เพิ่มพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จ.ฉะเชิงเทรา บางส่วนจากพื้นที่สีเขียว (พื้นที่เพื่อการเกษตร) เป็นสีม่วง (พื้นที่อุตสาหกรรม) ถือว่าเป็นปัจจัยบวก และมุมมองเชิงบวกต่อหุ้น บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เป็นอย่างมาก หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่าการปรับเปลี่ยนพื้นที่อาจส่งผลกระทบต่อการก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่เฟส 1 ของ EA ตลอดจนวันนี้ (8 พ.ย.) คาดว่าจะมีการประกาศงบการเงินไตรมาสที่ 3 ของ EA ซึ่งประเมินว่าจะมีตัวเลขการเติบโตออกมาดี
บล.เอเซียพลัสเปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวเป็นปัจจัยบวกต่อ EA ทำให้คาดว่าโครงการสร้างโรงงานแบตเตอรี่เฟส 1 ขนาด 1 GW จะสามารถเดินหน้าได้ตามแผน และจะ COD ได้ในช่วงครึ่งแรกปี 2563 (โครงการแบตเตอรี่เฟส 1 คิดเป็น FV 7 บาท/หุ้น) และส่งผลให้ราคาหุ้น EA เมื่อวานนี้ (7 พ.ย.) ปรับตัวเพิ่มขึ้นมายืนอยู่ที่ระดับ 45 บาทอีกครั้ง
ขณะที่ยังใกล้เข้าสู่การประกาศผลประกอบการงวด Q3/62 ที่จะเป็นแรงผลักดันราคาหุ้นต่อเนื่องให้กับ EA โดยแนวโน้มกำไรสุทธิ Q3/62 ที่คาดจะเติบโตถึง 7.2%qoq เท่ากับ 1.5 พันล้านบาท และผลจากกำไรปกติที่เพิ่มขึ้น 15.1%qoq จากธุรกิจไฟฟ้าพลังลม (รวม 385 MW) ได้ผลบวกจากฤดูมรสุม และการรับรู้โรงไฟฟ้าลมหนุมานเต็มไตรมาส
นอกจากนี้ แนวโน้มกำไรปกติ Q4/62 คาดเติบโตต่อจาก Q3/62 ทำระดับสูงสุดของปีจากโรงไฟฟ้าโซลาร์ ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ย 80% (สูงกว่าโรงไฟฟ้าพลังลมซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ย 60%) จะกลับมาผลิตไฟได้สูงขึ้นตามฤดูกาลหลังหมดฤดูฝน อีกทั้งยังได้ผลบวกจากธุรกิจไบโอดีเซลที่คาดว่าทั้งปริมาณ และราคาขาย B100 จะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลในช่วงปลายปี โดยราคาหุ้นมี Upside เปิดกว้าง 26.6% จึงเป็นโอกาสทยอยซื้อสะสมเพื่อลงทุน ให้ราคาเป้าหมาย 56 บาท
ส่วน บล.ฟินันเซียไซรัสระบุว่า หลังจาก ครม.อนุมัติแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินใน EEC ทำให้โรงงานแบตเตอรี่ของ EA ที่อยู่บนพื้นที่สีเขียว (ทำเกษตร) กลายเป็นสีม่วง (อุตสาหกรรม) ปัจจุบันโครงสร้างพื้นฐานของโรงงานสร้างเสร็จแล้ว โดยนำเข้าเครื่องจักรมาบางส่วน พร้อมผลิตแบตฯ เชิงพาณิชย์ใน Q2/63 สำหรับกำไร Q3/62 คาดสดใส +14% Q-Q, +37% Y-Y ยังแนะนำซื้อ เป้าปีหน้า 60 บาท
ด้าน บล.หยวนต้าประเมินว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวกต่อเนื่อง หลังจาก ครม.มีมติอนุมัติเปลี่ยนพื้นที่ตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน กำลังการผลิต 50 GWh จากสีเขียวเป็นสีม่วง ส่งผลให้แผนธุรกิจแบตเตอรี่ของบริษัทเดินหน้าตามแผนเดิม
คาดกำไรปกติ Q3/62 เติบโต 31% YoY และ 11% QoQ เป็น 1.46 พันล้านบาท ทำระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาสจากแรงหนุนของธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังลม หากงบออกมาดีกว่าคาดเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาหุ้นฟื้นตัวต่อเนื่อง คาดรายงานงบวันที่ 8 พ.ย.นี้ แนะนำสะสม ราคาเหมาะสม 60.25 บาท/หุ้น