บีซีพีจีกำไรไตรมาส 3/62 อยู่ที่ 401 ล้านบาทลดลงมากจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,139 ล้านบาท เนื่องจากไม่มีรายการรับรู้กำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศญี่ปุ่น
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสที่ 3/2562 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 401 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสที่ 3/2561 ที่มีกำไรสุทธิ 1,139 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาสดังกล่าวมีการรับรู้กำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศญี่ปุ่น แต่หากเปรียบเทียบผลการดำเนินงานปกติของกลุ่มบริษัทแล้วยังคงใกล้เคียงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะมีการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “ลมลิกอร์” และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ร่วมกับองค์การทหารผ่านศึก (อผศ.) เต็มไตรมาส
รวมทั้งรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ “Nam San 3A” ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพที่ดีขึ้นในประเทศอินโดนีเซีย มาชดเชยรายได้จากโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ นิคาโฮ (Nikaho) และนากิ (Nagi) ในประเทศญี่ปุ่น ที่จำหน่ายเข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานไปเมื่อไตรมาสที่ 3/2561
ทั้งนี้ หากเทียบกับไตรมาสที่ 2/2562 กำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติอ่อนตัวลง สาเหตุหลักมาจาก โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการเข้าสู่ช่วงฤดูฝน แต่โครงการอื่นทั้งในไทยและต่างประเทศได้รับผลบวกจากการเข้าสู่ช่วงฤดูกาลมาชดเชยบางส่วน เช่น โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “ลมลิกอร์” ในประเทศไทย และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ประเทศฟิลิปปินส์
ขณะที่ในช่วง 9 เดือนของปี 2562 กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิประมาณ 1,357 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,909 ล้านบาท ซึ่งมีการรับรู้กำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศญี่ปุ่น แต่หากเปรียบเทียบผลการดำเนินงานปกติของกลุ่มบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 1.0 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน