ทองคำแรงเก็งกำไรฝั่งขายเพิ่มขึ้น อาจใกล้ถึงเวลาดีดตัวกลับ

“สัญญาฟิวเจอร์สทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) เป็นสถานะขายสุทธิ 5 สัปดาห์ติดต่อกัน หลังกองทุนเฮดจ์ และผู้จัดการกองทุนลดสถานะซื้อ สร้างแรงกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบปี แต่นักวิเคราะห์ให้ความเห็นสอดคล้องกันว่า การที่สถานะขายเพิ่มขึ้นอย่างมาก บ่อยครั้งจะตามมาด้วยการดีดตัวกลับของราคาทองคำ”

Money managers เพิ่มสถานะการเก็งกำไรในทิศทางขาลงเป็นจำนวนมากในสัญญาฟิวเจอร์สทองคำในตลาด Comex แต่สำหรับนักวิเคราะห์บางท่านแนะนำว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าตลาดถึงจุดอิ่มตัวในทิศทางขาลง ที่อาจนำมาซึ่งการดีดตัวขึ้น

ทั้งนี้ ข้อมูลที่แยกประเภทของคณะกรรมาธิการการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC) ของสหรัฐฯ บ่งชี้ว่า money managers มีสถานะขายสุทธิในสัญญาฟิวเจอร์สทองคำจำนวน 36,422 สัญญาในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 ก.ค.2018 ซึ่งเพิ่มขึ้นหากเปรียบเทียบกับสถานะขายสุทธิ จำนวน 26,449 สัญญาในสัปดาห์ก่อนหน้า การเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นผลจากแรงขายใหม่ที่เพิ่มขึ้น เห็นได้จากจำนวนสถานะขาย (Short) ที่เพิ่มขึ้น 12,447 สัญญา ขณะที่สถานะซื้อ (Long) เพิ่มขึ้น 2,474 สัญญา และเมื่อพิจารณาแรงขายที่เกิดขึ้นในตลาดทองคำ โดยอ้างอิงตัวเลขสถานะล่าสุดจาก CFTC จะเห็นได้ว่า สถานะขายกดดันให้ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบปี

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์จาก Commerzbank ชี้ให้เห็นว่า ราคาทองคำแตะระดับต่ำสุดในรอบปี ซึ่งถูกกดดันโดยสถานะเก็งกำไรของเหล่าเทรดเดอร์ จากสถานะขายสุทธิที่ใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่มีการจดบันทึกซึ่งเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2015 อย่างไรก็ดี ข้อมูลเหล่านี้อาจกำลังบ่งบอกว่าตลาดอาจถึงจุดอิ่มตัว ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดมีการดีดตัวกลับเช่นกัน ทั้งนี้ Commerzbank กล่าวต่ออีกว่า นักเก็งกำไรมักจะมีพฤติกรรมในรูปแบบของวัฏจักร และจากข้อมูลในอดีต การที่สถานะขายเพิ่มขึ้นอย่างมาก บ่อยครั้งจะบ่งชี้ถึงการกลับตัวอย่างเด่นชัดในอนาคตอันใกล้นี้ เห็นได้จากสถานะในเชิงลบอย่างมากในช่วงปลายปี 2015 ตามมาด้วยการพุ่งขึ้นของราคาทองคำประมาณ 300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2016

ด้าน Alasdair Macleod หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์จาก Goldmoney ทวีตเช่นเดียวกันว่า ทองคำอยู่ในสภาวะขายมากเกินไป อย่างที่เคยเกิดขึ้นครั้งล่าสุดคือ วันที่ 29 ธ.ค.2015 และนั่นตามมาด้วยการพุ่งขึ้น 315 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สู่ระดับ 1,366 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายใน 7 เดือนให้หลัง

ส่วน David Fickling คอลัมนิสต์ใน Bloomberg Opinion เขียนเช่นกันว่า สถานะขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมักจะเป็นสัญญาณของการดีดตัวขึ้น เห็นได้จากสัปดาห์ที่ผ่านมา ทองแดงในตลาด COMEX หยุดสถิติการปรับตัวลง 6 สัปดาห์ติดต่อกัน ซึ่งการดีดตัวขึ้นเกิดหลังจากกองทุนเพิ่มสถานะขายสุทธิแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง

นักลงทุนทองคำอาจต้องจับตาการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ จะเห็นได้ว่าเมื่อราคาทองคำปรับตัวลงมาพอเข้าใกล้โซนแนวรับ 1,215-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็มีแรงดีดกลับสั้นๆ อย่างไรก็ตาม อาจต้องระวังแรงขายกลับลงมาอีกครั้งหากราคายังไม่มีแรงซื้อมากพอ หรือมีปัจจัยใหม่มาดันราคาขึ้น โดย YLG ยังคงประเมินแนวต้านที่ 1,235-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับกลยุทธ์การลงทุนอาจเข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงไม่หลุดแนวรับ 1,215-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรหากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,235-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รวมถึงติดตามข่าวสารต่างๆ อย่างใกล้ชิด

ที่มาข้อมูล : Bloomberg และ Kitco