รองนายกฯ “สมคิด” เร่งรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบลงทุนโค้งสุดท้ายปีงบฯ 61 หวังกระตุ้นเศรษฐกิจโตร้อยละ 5 ระบุรัฐวิสาหกิจเป็นเครื่องมือหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในการอัดฉีดเงินลงทุนออกสู่ระบบ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมผู้บริหารรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง เร่งรัดการเบิกจ่ายการลงทุนโค้งสุดท้ายปีงบประมาณปี 2561 ที่เหลืออยู่ 2 เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ ปัจจุบันเบิกจ่ายสะสมไปแล้ว 261,571 ล้านบาท หรือร้อยละ 86 ของวงเงินเป้าหมายทั้งหมด 481,133 ล้านบาท คาดว่าทั้งปีจะเบิกจ่ายได้ร้อยละ 95 ตามเป้าหมาย เพราะรัฐวิสาหกิจเป็นเครื่องมือหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในการอัดฉีดเงินลงทุนออกสู่ระบบ
สำหรับรัฐวิสาหกิจที่เบิกจ่ายล่าช้าต่ำกว่ากำหนด ทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.), บมจ. ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท., องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.), บมจ. ทีโอที, บมจ. กสท โทรคมนาคม รัฐวิสาหกิจเหล่านี้ยืนยันปรับแผนเบิกจ่ายได้ตามกำหนด ขณะที่ไปรษณีย์ไทยต้องปรับตัวรองรับการขนส่งสินค้ากับภาคเอกชน เพราะเริ่มมีคู่แข่งเข้ามาแย่งตลาดจากสินค้าออนไลน์ ในส่วนของ ทอท. เมื่อพัฒนาสนามบินภูมิภาคเพิ่มอีก 4 แห่ง เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเมืองรองจะพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาคได้มากขึ้น
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจมีความสำคัญมาก เมื่อเร่งออกสู่ระบบได้มากขึ้นจะช่วยผลักดันจีดีพีได้ตามเป้าหมาย เพราะการส่งออกดีต่อเนื่อง ภาคเอกชนเริ่มลงทุนได้ดีกว่า 2 ปีก่อน และการเดินทางไปโรดโชว์ที่ญี่ปุ่นของทีมเศรษฐกิจช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นับว่าภาพมองต่อไทยดีกว่าการไปเยือนครั้งแรกอย่างมากในสายตานักลงทุนญี่ปุ่น เพราะเห็นจีดีพี โตร้อยละ 4.8 ในไตรมาสแรก และต่อเนื่องมาเรื่อย จึงมีความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในประเทศ จึงคาดว่าจีดีพีของไทยจะได้ตามเป้าหมายร้อยละ 4.8 และหากเติบโตได้ร้อยละ 5 ตามศักยภาพของไทยจะเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะช่วยกระจายความมั่งคงออกไปสู่ประชาชนในชนบท และรัฐบาลต้องการให้เติบโตอย่างยั่งยืน ไม่ใช่เติบโตแล้วกลับมาทรุดตัว การพัฒนาทุกด้านจึงต้องการเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน
