กสิกรฯ ชี้ครึ่งปีหลังสงครามการค้ายังกดดันเงินยังไหลออก-รับ ศก. ไทยเสี่ยงมากขึ้น

กสิกรไทย ประเมินครึ่งปีหลังเงินยังไหลออก จากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากสงครามการค้า กดเงินบาทอ่อนค่าแตะ 34 บาทในช่วงไตรมาส และกลับมาแข็งค่าในช่วงปลายปีที่ 33 บาท ชี้เศรษฐกิจมีความเสี่ยงมากขึ้น แต่ยังไม่ปรับประมาณการ

นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารยังคงไม่มีการปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจของไทยในขณะนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่า เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากความรุนแรงขึ้นของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศจีน ซึ่งจะต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยเท่าที่ประเมินในปลายปีที่สหรัฐฯ จะมีการเลือกตั้งกลางเทอมน่าจะมีความชัดเจนขึ้น ความกดดันจากประเด็นสงครามการค้าก็น่าจะน้อยลง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลังนี้จึงยังมีความผันผวนของเงินทุนไหลออกในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ รวมถึงไทย เนื่องจากจะมีการลดถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงลง ก็จะส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าแตะระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ และหลังจากนั้น ก็จะมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงปลายปี หากภาวะสงครามการค้าผ่อนคลายลง ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ก็อาจจะลดความเข้มงวดของนโยบายการเงินลงจากความไม่แน่นอนของสงครามการค้า โดยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้งในปีนี้ จากเดิมคาดว่าจะปรับขึ้นอีก 2 ครั้ง

“ในเรื่องผลกระทบสงครามการค้านั้น ขณะนี้ยังประเมินชัดเจนไม่ได้ แต่ก็มีความต่อเศรษฐกิจไทยมากขึ้นแม้จะเป็นผลกระทบทางอ้อมก็ตาม ล่าสุด ตัวเลขการส่งออกเดือนมิถุนายน ของสิงคโปร์ ก็ปรับตัวลดลง 10% ซึ่งก็ต้องจับตาดูต่อเนื่องในเดือนต่อๆ ไปว่าเป็นผลกระทบจากกรณีดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งประเทศไทยก็เช่นกัน เพราะตัวเลขเศรษฐกิจจะออกตามหลังมา 1-2 เดือน”