เปิดเผนบริษัทยักษ์ใหญ่อสังหาฯ “ฮันคิว ฮันชิน” กับกลยุทธ์รุกที่อยู่อาศัย แย้มศึกษาลงทุนโครงการออฟฟิศ โรงแรม คอมเมอร์เชียล ชี้ ศก.ไทยเติบโต อสังหาฯ ยังมีดีมานด์ที่สูง “เสนาฯ” กับการเปิดตัวโครงการร่วมทุนกับฮันคิว แบรนด์ใหม่ “ปีติ” คอนโดฯ ลักชัวรีในเอกมัย มั่นใจยอดขายปีนี้ 10,300 ล้านบาท
นายยูสุเกะ คุสุ รองประธานกรรมการบริหาร ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ปเปอร์เรชั่น กล่าวถึงแนวโน้มการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียว่า ในประเทศไทยมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ โดยภาพรวมเศรษฐกิจในไทยมีการเติบโต ซึ่งตอนที่ทางฮันคิว ฮันชินฯ เข้ามาลงทุน จีดีพีอยู่ระดับ 3% แต่ปัจจุบันรัฐบาลคาดจีดีพี จะโตที่ 4.3% มีลงทุนโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor หรือ EEC) รวมถึงรัฐบาลประกาศโครงการ “ไทยแลนด์ 4.0”
“เดิมฮันคิว ฮันชินฯจะลงทุนในเขตคันไซ แต่ในช่วงหลายปีได้ขยายธุรกิจมาสู่ภูมิภาคเอเชีย และจะเน้นในภูมิภาคนี้มากขึ้น ปัจจุบัน ฮันคิว ฮันชิน ลงทุนในภูมิภาคนี้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จำนวน 20,000 ล้านเยน เวียดนามเป็นประเทศแรกที่เข้ามาเปิดตลาด มีทั้งโครงการลอจิสติกส์ โครงการที่อยู่อาศัย หลังจากนั้น ขยายไปในประเทศอินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, สิงคโปร์ และกำลังศึกษาตลาดในพม่า และลาว ส่วนในไทยตอนนี้มาเป็นอันดับ 1 โดย 2 ปีที่ผ่านมา ได้ร่วมลงทุนกับพันธมิตร บมจ. เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมออกสู่ตลาดแล้ว 2 โครงการ มูลค่า 7,000 ล้านบาท และเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดอสังหาฯ ในไทย บวกกับความมั่นใจในเศรษฐกิจไทย การร่วมลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ในปีนี้ และต่อเนื่องไปจะไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ทำให้ตัวเลขเงินลงทุนคิดเป็น 45% ของทั้งหมดในภูมิภาคนี้ ส่วนจะไปอีกกี่ปี ยังตอบไม่ได้ แต่จากข้อมูลพบว่า ในอีก 13 ปีข้างหน้า จำนวนประชากรในไทยจะเพิ่มสูงสุด นั่นหมายถึง ดีมานด์ในอสังหาฯ ยังมีอยู่” นายยูสุเกะ คุสุ กล่าว และว่า
ทางญี่ปุ่นยังมีความสนใจในโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบให้เช่า เช่น อาคารสำนักงาน โครงการคอมเมอร์เชียล หรือพื้นที่เชิงพาณิชย์ ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษา และหาข้อมูล ในส่วนการทำโครงการที่อยู่อาศัยจะร่วมกับทาง บมจ. เสนาฯ แห่งเดียว เนื่องจากพันธมิตรมีความน่าเชื่อถือ ผลงาน 2 ปีที่ผ่านมาออกมาชัดเจน และด้วยประสบการณ์ของญี่ปุ่นมีมา 100 ปี ได้มีการเติมเทคโนโลยีในการพัฒนาโครงการออกมา
น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ฯ กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯ ไทยครึ่งหลังของปี 2561 ว่ามีทิศทางที่ดียิ่งขึ้น โดยคาดว่าปีนี้จะมีอัตราการเติบโตได้ประมาณ 3-5% โดยมีปัจจัยจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ ขณะที่ดีมานด์ระดับบนยังมีสัญญาณที่ดี และเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้ายังมีความต้องการสูงขึ้น
ส่วนแผนการดำเนินงานของบริษัทร่วมทุนในชื่อบริษัท เสนา ฮันคิว จำกัด ในปี 2561 จะพัฒนาโครงการร่วมทุนอย่างน้อย 7 โครงการ มูลค่ากว่า 23,0000 ล้านบาท ทั้งนี้การพัฒนาโครงการจะเป็นการต่อยอดการพัฒนาคอนโดมิเนียมร่วมกัน บนทำเลที่มีศักยภาพในย่านใจกลางเมือง ซึ่งเป็นโอกาสและสัญญาณที่ดีในการพัฒนาคอนโดมิเนียมหรูระดับลักชัวรี และเป็นโครงการแรกของบริษัทในปีนี้
ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวโครงการคอนโดฯระดับลักชัวรีแบรนด์ใหม่ ภายใต้ชื่อ “ปีติ เอกมัย” ร่วมทุนโครงการที่ 3 ภายใต้ชื่อบริษัท เสนา ฮันคิว จำกัด มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียม บนพื้นที่กว่า 4 ไร่ ทำเลซอยเอกมัย 26 เป็นอาคารสูง 37 ชั้น 1 อาคาร รวม 897 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต ราคาเริ่มที่ 4.45 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 170,000 บาทต่อตร.ม. เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 30-45 ปี ฐานรายได้กว่า 70,000บาท โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนจองสิทธิผ่าน “SENA Online Booking” ตั้งแต่วันนี้-2 ส.ค. นี้
“บริษัทมีความสนใจขยายไปยังโรงแรม และอาคารสำนักงานเพิ่มเติม เนื่องจากฮันคิว เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจดังกล่าว ทำให้เป็นโอกาสที่จะพัฒนาร่วมกันต่อไป อีกทั้งยังบริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาพัฒนาโครงการคอนโดฯ ในเขต EEC เบื้องต้น สนใจทำเลใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จากปัจจุบันที่มีโครงการบ้านเดี่ยวอยู่แล้ว”
ด้านยอดขายปีนี้คาดจะเติบโตมาที่ระดับ 10,300 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกทำได้แล้วกว่า 5,000 ล้านบาท รายได้ 6,200 ล้านบาท จากการเปิดตัวโครงการใหม่ 6 โครงการ มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท และครึ่งปีหลังนี้เตรียมโครงการใหม่ทั้งโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่น และโครงการพัฒนาเอง 9-10 โครงการ มูลค่า 15,000 ล้านบาท ส่วนเป้ารายได้.