xs
xsm
sm
md
lg

“ออลล์ อินสไปร์” ผุด “ดิ เอ็กเซล รัชดา 18” เน้นเจาะนักลงทุนกันห้องชุด 40% ขายต่างชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ธนากร ธนวริทธิ์
“ออลล์ อินสไปร์” ระบุทำเลรัชดาเหมาะแก่การลงทุน แม้ซัปพลายเข้าตลาดต่อเนื่อง แต่อัตราการรระบายออกยังสูง ราคาขายปรับตัวขึ้นทุกปี แถมผลตอบแทนตลาดปล่อยเช่าดีต่อเนื่อง 6.5-7% เหมาะแก่การซื้อลงทุนปล่อยเช่า ล่าสุด เปิดตัว “ดิ เอ็กเซล รัชดา 18” โลว์ไรส์คอนโด 270 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท มูลค่า 800 ล้านบาท พร้อมกันโควต้า 40% ให้บริษัทลูก โรดโชว์-ขายนักลงทุนต่างชาติ

นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แนวถนนรัชดาภิเษก-พระราม 9 เป็นทำเลที่มีการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง มีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ทุกปี ซึ่งแต่ละโครงการได้รับผลตอบรับค่อนข้างดี โดยในพื้นที่ดังกล่าวมีซัปพลาย 6,200 ยูนิต สามารถขายออกแล้ว 50% ขณะเดียวกันโครงการที่เปิดขายใหม่ในแต่ละปีจะมีราคาขายขยับขึ้นทุกปี ส่งผลให้ตลาดคอนโดในย่านรัชดา เติบโตอย่างต่อเนื่อง และสะท้อนว่าดีมานด์ในทำเลรัชดา ยังมีอยู่จำนวนมาก

“รัชดา เป็นทำเลที่ชาวต่างชาติ, กลุ่มจีน, ยุโรปตะวันออก และเกาหลี เข้ามาลงทุนและอยู่อาศัยจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะนิยมซื้อ หรือเช่าคอนโดเป็นหลัก ทำให้รัชดา เป็นทำเลศักยภาพในการอยู่อาศัย แหล่งงาน และการซื้อเพื่อลงทุนเพื่อการปล่อยเช่า”

ทั้งนี้ การลงทุนคอนโดในทำเลรัชดาภิเษก มีอัตราเฉลี่ยผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า 6.5-7% เมื่อเทียบกับทำเลในเขตกรุงเทพฯ ชั้นในที่มีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 3-5% ส่งผลให้เป็นทำเลที่น่าสนใจในด้านการลงทุนปล่อยเช่า เนื่องจากเป็นทำเลที่อยู่ใกล้โซนออฟฟิศ และยังมีศักยภาพในการปล่อยเช่า หรือขายต่อตลาดกลุ่มลูกค้าต่างชาติ

นายธนากร กล่าวว่า ล่าสุด บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการ ดิ เอ็กเซล รัชดา 18 เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัย ทั้งเพื่อการอยู่อาศัย และการลงทุนในอนาคต สำหรับ “ดิ เอ็กเซล รัชดา 18” เป็นคอนโด Low Rise ราคาเริ่ม 1.79 ล้านบาท 270 ยูนิต 2 อาคาร มูลค่า 800 ล้านบาท ตั้งอยู่เลียบถนนรัชดาภิเษก ซอย 18 ซึ่งเป็นทำเลตอบโจทย์ความต้องการในด้านการอยู่อาศัย และการลงทุนจากต่างชาติ

ทั้งนี้ ภายหลังการเปิดขายโครงการ บริษัทจะกันโควต้า 40% ของห้องชุดในโครงการ เพื่อให้บริษัทลูกนำไปโรดโชว์ และขายแก้นักลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะลูกค้าชาวจีน, ฮ่องกง, ไต้หวัน และสิงคโปร์ โดยในจำนวนนี้ นักลงทุนชาวจีนเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีการซื้อห้องชุดเพื่อลงทุนปล่อยเช่ามากถึง 40% ของกลุ่มลูกค้าต่างชาติ โดยในเดือน ส.ค. นี้ เตรียมจะนำห้องชุดในโครงการเดินทางไปโรดโชว์ในประเทศดังกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น