xs
xsm
sm
md
lg

TICON คงเป้ารายได้ปี 61 โต 15% เดินหน้าแผน 3 ปีรุก 2 กลุ่มธุรกิจใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON)
TICON คงเป้าหมายรายได้ปี 2561 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% พร้อมเดินหน้าตามแผนโรดแมป 3 ปี รุก 2 กลุ่มธุรกิจใหม่ ดาต้าเซ็นเตอร์ และกลุ่มสมาร์ทโซลูชัน คาดมีสัดส่วนรายได้จาก 2 ธุรกิจใหม่ไม่น้อยกว่า 10-20% ภายใน 3 ปี จ่อเปิด Co-Working Space สาขา 2 ที่แคปปิตอล ทาวเวอร์ ในออล ซีซั่น เพลส เดือน ก.ค. นี้

นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เดินหน้าตามแผนโรดแมป 3 ปี เปิดเกมรุกขยายธุรกิจด้วยกลยุทธ์ Total Dimension ขับเคลื่อนองค์กรในทุกมิติ ก้าวสู่การเป็น “ผู้นำการให้บริการสมาร์ทแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม” ดึงเทคโนโลยีชั้นสูงมาต่อยอดทุกธุรกิจเต็มรูปแบบ จัดทัพครั้งใหญ่รับเศรษฐกิจยุคดิจิทัล เพิ่ม 2 กลุ่มธุรกิจใหม่ กลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Centre) และกลุ่มสมาร์ทโซลูชัน (Smart Solution) เสริมกลุ่มเดิมที่มีกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม (Industrial property)

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้ร่วมกับพันธมิตร “จัสท์โค” (JustCo) ผู้ให้บริการ Co-Working Space  โดยก่อนหน้านี้ JustCo ได้ร่วมลงทุนมูลค่า 177 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กับกองทุน GIC ซึ่งเป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของสิงคโปร์ และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีเครือข่ายธุรกิจอยู่ทั่วโลก และจะเน้นต่อยอดธุรกิจบนแพลตฟอร์มแบบผสมผสาน (Integrated Platform) ของทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ เพื่อนำเสนออาคารบริการ และโซลูชัน ที่ตอบความต้องการตลาด และตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มอุตสาหกรรม เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และขยายธุรกิจสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่

“การร่วมมือกับจัสท์โค เพื่อขยายธุรกิจตามแผนโรดแมป 3 ปี (ปี 2561-2563) ที่จะขับเคลื่อนองค์กรในทุกมิติ ก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการสมาร์ทแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม (The leading provider of smart industrial platform) ในระดับอาเซียนภายในปี 2563 โดยจะเน้นการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาพัฒนา และต่อยอดธุรกิจ เพื่อให้เกิดมูลค่า และประสิทธิภาพให้ธุรกิจทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มธุรกิจเดิม อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม (Industrial Property) และกลุ่มธุรกิจใหม่ คือ ดาต้าเซ็นเตอร์ และสมาร์ทโซลูชั่น ซึ่งจะดำเนินงานควบคู่ไปกับแนวทางการจับมือกับพันธมิตรชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อผนึกศักยภาพ และนำมาเสริมธุรกิจให้แข็งแรงยิ่งขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้ามีสัดส่วนรายได้จาก 2 ธุรกิจใหม่ 10-20% ภายใน 3 ปี”

ทั้งนี้ แนวทางในการนำเทคโนโลยีมาเสริมศักยภาพทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม บริษัทฯ จะเดินหน้านำระบบออโตเมชัน (Automotion) เทคโนโลยีสมัยใหม่ และโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีมาพัฒนาพื้นที่ให้บริการให้สามารถรองรับกลุ่มอุตสาหกรรม New S-Curve ในยุค 4.0 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ ก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการคลังสินค้า และโรงงานอัจฉริยะ (Smart Logistics and smart Factory) พร้อมกับพัฒนาโครงการอย่างยั่งยืน มุ่งสู่การเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าลงทุนขยายพื้นที่โรงงาน และคลังสินค้าให้เช่า ขนาด 1 แสนตารางเมตรภายใน 3 ปี โดยวางงบลงทุนไว้ที่ 1 หมื่นล้านบาท

กลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ หลังจากได้ประกาศความร่วมมือกับเอสทีที จีดีซี (STT GDC) บริษัทชั้นนำด้านการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์จากสิงคโปร์ เพื่อรุกธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทย โดยเตรียมแผนเดินหน้านำเทคโนโลยี ความรู้ ความเชี่ยวชาญของทั้งสององค์กรมาใช้พัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่แห่งแรกบนพื้นที่ยุทธศาสตร์ในกลางกรุงเทพฯ ตั้งเป้าเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ที่ทันสมัย และปลอดภัย มาตรฐานระดับสากล รองรับความต้องการของผู้ประกอบการขนาดใหญ่ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ โดยการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ บริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมลงทุนขนาดไม่ต่ำกว่า 1 พันแร็ก บนพื้นที่ 10-15 ไร่ ในกรุงเทพฯ คาดว่าจะสรุปงบลงทุนได้ไม่เกินไตรมาส 4/61 และน่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จได้ภายใน 2 ปีนี้

ด้านกลุ่มสมาร์ทโซลูชัน จากการจับมือกับ จัสท์โค ซึ่งถือว่ามีความเชี่ยวชาญ ทั้งด้านวิเคราะห์ข้อมูล เทคโนโลยีเกี่ยวกับสถานที่ทำงาน และการบริหารจัดการกลุ่มลูกค้าสมาชิก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนเป้าหมายของไทคอนในการนำเสนอโซลูชันที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้นให้กับลูกค้า และก้าวเป็นอันดับหนึ่งในการบริการ Co-Working Space ในประเทศไทย และอาเซียน โดยปัจจุบันจัสท์โค มีพื้นที่ให้เช่าในประเทศไทยอยู่จำนวน 2 แห่ง รวม 8 หมื่นตารางฟุต ซึ่งคาดว่าการขยายพื้นที่ในอนาคตต่อไปจะมีขนาดพื้นที่ให้เช่าเพิ่มขึ้นประมาณ 6-7 หมื่นตารางฟุต และภายใน 2 ปีจะมีขนาดพื้นที่ให้เช่าไม่ต่ำกว่า 3 แสนตารางฟุต

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้ปี 61 ไว้ตามเดิม หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน โดยจะมาจากการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมเป็นหลัก เป็นไปตามการลงทุนที่กลับเข้ามามากขึ้น และเศรษฐกิจในประเทศมีการขยายตัวดี ขณะที่ผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้ก็มองว่าน่าจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก จากบริษัทฯ เตรียมดำเนินการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TREIT) มูลค่า 3.5 พันล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลังนี้

“เรายังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้ไว้ตามเดิม เนื่องด้วยธุรกิจใหม่ 2 ธุรกิจทั้งดาต้าเซ็นเตอร์ และสมาร์ทโซลูชัน เราเพิ่งจะเริ่มดำเนินการ และยังต้องมีการลงทุนอีกมาก ทำให้การรับรู้รายได้น่าจะยังไม่เห็นใน 2 ปีนี้”

ด้านนายคง วัน ซิง ผู้ก่อตั้งและประธาน JustCo กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะเสริมซึ่งกันและกัน และก่อตัวเป็นพลังทางธุรกิจครั้งใหม่ที่จะขับเคลื่อนการเติบโตของพันธมิตรทั้ง 2 ฝ่าย โดยหลังจากการเกิดให้บริการ Co-Working Space สาขาแรกในกรุงเทพฯ ที่อาคารเอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ เมื่อ พ.ค. ที่ผ่านมา ได้เตรียมเปิดสาขาที่ 2 ที่แคปปิตอล ทาวเวอร์ ในออล ซีซั่น เพลสในเดือน ก.ค. นี้


กำลังโหลดความคิดเห็น