ไทยพาณิชย์ เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ “EASY E-KYC” ให้ลูกค้าเปิดบัญชีด้วยตนเองด้วยเทคโนโลยีการพิสูจน์ต้วตนด้วย Biometric ผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY คาดเปิดใช้อย่างเป็นทางการ 21 ก.ค. นี้ สำหรับผู้ใช้มือถือระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชัน 5.1 ขึ้นไป และออกจาก Sand Box ได้ในไตรมาส 4 ปีนี้ หวังขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่
นายธนา โพธิกำจร ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสาย Digital Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมที่จะเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “EASY E-KYC” บริการเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ด้วยตัวเองผ่านแอพพลิเคชั่น SCB EASY ด้วยการนำเทคโนโลยี E-KYC (Electronic Know Your Customer) หรือการพิสูจน์ต้วตนลูกค้าด้วย Biometric มาใช้กับแอปพลิเคชันบนมือถือ โดยไม่ต้องไปที่สาขาธนาคาร ในเบื้องต้นจะให้บริการสำหรับลูกค้าใหม่ที่ยังไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ธนาคาร ผู้ใช้มือถือที่รองรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชัน 5.1 ขึ้นไป และผู้ที่มีหนังสือเดินทางประเทศไทย โดยคาดว่าจะเปิดบริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 กรกฎาคมนี้ และสามารถให้บริการในวงกว้างขึ้นหลังออกจากการทดสอบเสมือนจริง (Sand Box) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประมาณไตรมาส 4 ปีนี้
ทั้งนี้ ขั้นตอนการเปิดบัญชี EASY E-KYC นั้น หลังจากดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SCB EASY แล้ว ลงทะเบียนใช้บริการผ่านบัตรประจำตัวประชาชน-กรอกข้อมูลส่วนตัว เลือกฟังก์ชันเปิดบัญชีใหม่กับ SCB พร้อมทั้งสแกนบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง และสแกนใบหน้าของผู้ขอเปิดบัญชีเพื่อยืนยันตัวตน ซึ่งในขั้นตอนนี้จะมีการทดสอบการเคลื่อนไหวเพื่อเป็นการ Life Check และเลือกบัญชีที่ต้องการเปิด-กรอกข้อมูลส่วนตัวยืนยีนการเปิดบัญชี โดยในเบื้องต้นจากการทดสอบพบว่า ระบบมีความแม่นยำมาก มีการปฏิเสธการอ่าน Biometric เพียง 0.01%
นายธนา กล่าวอีกว่า การดำเนินการดังกล่าวของธนาคารสอดคล้องกับแนวนโยบาย National Digital ID ของทางการที่จะนำมาใช้ในปีหน้า ซึ่งจะทำให้บริการดังกล่าวของธนาคารสามารถใช้ได้ในวงกว้างมากขึ้น เมื่อสามารถเชื่อมโยงกับข้อมูลทางการได้ นอกจากนี้ ข้อมูลทางการเงินของลูกค้าก็จะทำให้ธนาคารสามารถผลิตภัณฑ์ทางการเงินได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าตามเวลาที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าด้วย โดยที่ผ่านมา ธนาคารก็ได้เปิดบริการ Digital Lending ไปแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มียอดสินเชื่อสมัครผ่าน SCB EASY ทั้งสิ้นกว่า 165,000 รายการ และมีแนวทางที่จะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น โดยใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วย เพื่อให้ได้ Digital Lending ที่แตกต่าง และเป็นธรรมกับลูกค้ามาขึ้น
ส่วนจำนวนผู้ใช้แอปพลิเคชัน SCB EASY หลังจากที่ได้ประกาศยกเลิกค่าธรรมเนียมธุรกรรมโอน จ่าย เติมเงินผ่านแอปฯ ดังกล่าวพบว่ามียอดสมัครใช้สูงถึง 18,000 รายต่อวัน ทำให้มียอดเฉลี่ยลูกค้าใหม่สูงสุดเดือนละ 3.5 แสนราย ส่งผลให้ปัจจุบันมียอดผู้ใช้งาน SCB EASY แตะ 7 ล้านรายหลังเปิดตัวมา 11 เดือน รวมถึงมีสัดส่วนการใช้บริการโอน จ่าย เติมเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารเพิ่มเป็น 90% ของธุรกรรมรวม ที่เหลืออีก 10% ผ่านช่องทางสาขา และตู้เอทีเอ็ม รวมถึงช่วยผลักดันให้มียอดผู้ใช้บริการ SCB EASY เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้ที่ 9-10 ล้านราย
“ในครึ่งหลังของปีนี้เราจะเน้นในส่วนขยายลูกค้าใหม่ จากปัจจุบันที่ธนาคารมีจำนวนลูกค้า 14 ล้านราย เป็นลูกค้าที่ Active ประมาณ 10 ล้านราย ซึ่งถ้าเป็นไปตามเป้าหมายก็จะใช้แอปพลิเคชันเราเกือบหมดแล้ว สิ่งที่ต้องการนอกจากการพัฒนาฟังก์ชันต่างๆ ให้กับผู้ที่ใช้อยู่แล้ว ก็คือ การเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ด้วย”
