xs
xsm
sm
md
lg

สหไทย เทอร์มินอล เซ็นลูกค้า “สายเรือ ไทคัง”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สหไทย เทอร์มินอล คว้าลูกค้าใหม่สายเรื อไทคัง ซึ่งเป็นสายเรือสัญชาติจีน คาดดันวอลุมปี 2561 เติบโตเพิ่มขึ้นอีกกว่า 15% คาดผลประกอบการปีนี้เติบโตแรงไม่ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้

นางเสาวคุณ ครุจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT เปิดเผยว่า “บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญากับลูกค้าสายเรือรายใหม่ สายเรือไทคัง จากประเทศจีน โดยสายเรือไทคัง เริ่มเข้าเทียบท่าเรือสหไทย ในปลายไตรมาส 2 โดยคาดว่าจะมีปริมาณการขนส่งคอนเทนเนอร์ของสายเรือไทคัง ประมาณ 2,000 teus ต่อเดือน จึงคาดว่าวอลุ่มของสหไทยปีนี้ คาดว่าจะเติบโตขึ้นกว่า 15% การเซ็นสัญญากับสายเรือไทคัง นับเป็นความสำเร็จล่าสุดในการขยายฐานลูกค้าของบริษัทฯ หลังจากที่บริษัทย่อย (BBT) เพิ่งเซ็นสัญญากับสายเรือ OCEAN NETWORK EXPRESS หรือ ONE Line ซึ่งเป็นสายเรืออันดับ 1 ของญี่ปุ่น ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบัน ท่าเรือสหไทย มีสายเดินเรือระดับโลกมากกว่า 10 รายเข้ามาใช้บริการ เนื่องจากท่าเรือสหไทย มีมาตรฐานการให้บริการระดับสากล มีการลงทุนด้านอุปกรณ์ และเทคโนโลยีระดับโลก อีกทั้งยังมีเครื่อง Mobile x-ray จากกรมศุลกากร ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าได้อย่างมาก

นอกจากนี้ PORT ยังมีบริการที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร เช่น บริการขนถ่ายตู้สินค้า บริการซ่อมบำรุงตู้สินค้า บริการขนส่งตู้สินค้าทางบก และทางน้ำ และบริการคลังสินค้า ซึ่งเป็นจุดเด่นที่แตกต่าง สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มได้ครบถ้วน ท่าเรือสหไทย จึงเป็นที่ยอมรับแก่สายเรือระดับโลกต่างๆ มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

คุณเสาวคุณ ครุจิตร กล่าวต่อว่า “จากการส่งออกที่ดีขึ้นในช่วงนี้ เราเชื่อว่า ปริมาณการให้บริการของ PORT ก็จะขยายตัวตามด้วยเช่นกัน ปัจจุบัน สินค้าที่ผ่านท่าเรือสหไทย มีหลากหลายประเภท โดยสินค้าหลักจะเป็นกลุ่มสินค้าเกษตร และอาหาร ตลอดจนถึงสินค้าอุตสาหกรรมอย่างเหล็ก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมีลูกค้าผู้นำเข้าที่มีปริมาณการนำเข้ามากโดยลูกค้ารายใหญ่ คือ ผู้นำเข้ารถยนต์ Mercedes Benz ซึ่งมีวอลุ่มเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เราคาดว่า การขยายตัวโดยรวมของเศรษฐกิจ การส่งออกที่เพิ่มขึ้น รวมถึงยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้นของไทย จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัท และการลงทุนในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของรัฐบาล จะเป็นโอกาสในการเติบโตของบริษัทต่อไป บริษัทจึงเตรียมแผนการลงทุนในการขยายธุรกิจมีแผนจะลงทุนอีกประมาณ 300 ล้านบาทในช่วงปี 2018-2019 เพื่อขยายโครงการศูนย์ซ่อมบำรุง และจัดเก็บตู้สินค้า (Container Depot) ผ่านบริษัทฯ ย่อย BCDS ซึ่งได้เปิดให้บริการเฟสที่ 1 ไปตั้งแต่กลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา จึงช่วยสนับสนุนการเติบโตของรายได้อีกทางหนึ่ง

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2561 ซึ่งบริษัทฯ มีรายได้รวม 375 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรขั้นต้น 103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 36 ล้านบาท เติบโต 135.9% จากกำไรสุทธิ 15 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิ 22.63 ล้านบาทในไตรมาส 4/2560 โดยมีปัจจัยหลักจากปริ มาณตู้คอนเทนเนอร์ที่ให้บริการเพิ่มขึ้นราว 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทำให้เชื่อมั่นว่า ในปีนี้รายได้ของบริษัทฯ จะโตได้ตามเป้าที่ได้ตั้งไว้อย่างแน่นอนบริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT เป็นผู้ให้บริการท่าเรือเอกชนครบวงจรรายใหญ่ของประเทศไทย

โดยให้บริการตั้งแต่ 1. ธุรกิจการให้บริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์ครบวงจร สำหรับเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Feeder) และเรือขนส่งสินค้าชายฝั่ง (Barge) รวมถึงให้ให้บริการบรรจุสินค้าเข้า และถ่ายสินค้าออกจากตู้ คอนเทนเนอร์ (CFS) และซ่อมแซมทำความสะอาดตู้ คอนเทนเนอร์ (Container Depot) 2. ธุรกิจการให้บริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางบก ภายในบริเวณจังหวัดกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล และบริเวณเขตพื้นที่แหลมฉบัง 3. ธุรกิจการให้บริการพื้นที่จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์ และคลังสินค้า โดยให้บริการพื้นที่ลานพักตู้คอนเทนเนอร์ และจัดเก็บสินค้าคลังสินค้ากับลูกค้า ทั้งที่เป็นเขตให้บริการปกติ และปลอดภาษีอากร (Free Zone) ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ ให้บริการแก่กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลก กลุ่ทธุรกิจ e-commerce และอีกหลากหลายอุตสาหกรรม 4. ธุรกิจการให้บริการเกี่ยวเนื่องอื่นๆ อาทิ การให้บริการ Freight Forwarding เป็นต้น


กำลังโหลดความคิดเห็น