xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นปี 61 ไม่สดใสเสียแล้ว / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ตลาดหุ้นเปิดรับสัปดาห์ใหม่ วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ.2561 ที่ผ่านมา ถูกถล่มอย่างหนัก จนดัชนีราคาหุ้น ตลาดหลักทรัพย์ดิ่งลงกว่า 25 จุด ตอกย้ำถึงแนวโน้มการลงทุนในช่วงขาลงเต็มตัว

ข่าวร้ายที่บ่อนทำลายความเชื่อมั่นนักลงทุนอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ปรากฏชัด

แต่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ระบุว่า ตลาดหุ้นกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน กลัวผลกระทบแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งประเมินว่า ปีนี้อาจขยับอีก 2 ครั้ง ทำให้สิ้นปีดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐจะอยู่ระหว่าง 2.25 % - 2.50 %

และยังห่วงผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ โดยเฉพาะการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ซึ่งอาจไม่เกิดขึ้น

แต่ปัจจัยที่ทำให้หุ้นต้องซึมลงต่อเนื่องมาหลายเดือนนั้น ข้อมูลที่สามารถอ้างอิงได้เกิดจากการเทขายของนักลงทุนต่างชาติ และขายมาตั้งแต่ต้นปี โดยมียอดขายสุทธิสะสมจนถึงวันที่ 18 มิถุนายน จำนวนทั้งสิ้น 165,620.10 ล้านบาท


ต่างชาติปักหลักขายมาเกือบ 6 เดือนเต็ม ขายไม่เลือกหน้า โดยหุ้นขนาดใหญ่ตกเป็นเป้าหมายในการถูกโจมตี ส่วนเงินจากการขายหุ้น ถูกโยกกลับไปสหรัฐ เพราะเงินดอลลาร์ มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐสูงขึ้น


การเทขายหุ้นของต่างชาติ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะตลาดหุ้นไทย แต่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นหลายแห่งในภูมิภาคเอเชีย เช่นอินเดีย อินโดนิเชีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ไต้หวันรวมทั้งตลาดหุ้นไทย โดยปีนี้ต่างชาติขายหุ้นสุทธิรวม 6 ประเทศ ประมาณ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 6.08 แสนล้านบาท


ตลาดหุ้นไทยถูกทำนายไว้ ปีนี้จะเป็นปีที่สดใส ดัชนี ฯ จะพุ่งกระฉูดไปถึง 1,900 จุด หรือโบรกเกอร์ที่มองโลกสวย มองไปไกลถึง 2,000 จุด


แต่สถานการณ์การลงทุนขณะนี้ เป็นคนละเรื่องแล้ว เพราะตลาดหุ้นตกอยู่ในภาวะผันผวน ทิศทางราคาหุ้นไม่แน่นอนและมีความเสี่ยงสูง


ต่างชาติน่าจะมีมุมมองตลาดหุ้นไทยไม่ดีนัก เพราะถ้าเชื่อมั่นว่า แนวโน้มยังสดใส ยังสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ คงไม่เทขายหุ้น หอบเงินกลับ


ตลาดหุ้นปีนี้เริ่มด้วยดี เพราะช่วงต้นปีบรรยากาศการซื้อขายหุ้นคึกคักต่อเนื่องจากปลายปี 2560 ดัชนี ฯ เคยทะยานขึ้นไปแตะที่ระดับ 1,850 จุด แต่ปัจจุบันทรุดลงมายืนที่ระดับ 1,680 จุด ลงมาแล้วประมาณ 170 จุด และไม่รู้ว่าจะลงไปอีกเท่าไหร่


จุดต่ำสุดของรอบจะสิ้นสุดที่ดัชนี ฯ เท่าไหร่


เพราะระยะสั้นยังไม่เห็นสัญญาณการดีดตัวกลับ ไม่มีปัจจัยกระตุ้นการลงทุน มีแต่ปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ทำให้อยู่ในช่วงขาลงเต็มตัว


ผลตอบแทนจากตลาดหุ้นปีนี้ติดลบแล้ว สิ้นปี 2560 ดัชนี ฯ ปิดที่ 1,753.71 จุด แต่ล่าสุดยืนอยู่ที่ 1,679.68 จุด ลดลง 75.03 จุดหรือลดลงประมาณ 4%


มุมมองการลงทุนต้องปรับเปลี่ยนใหม่แล้ว เพราะมีปัจจัยลบแทรกซ้อน ทั้งจากภายนอกและภายใน โดนสถานการณ์โดยทั่วไปภายในประเทศไม่น่าไว้วางใจ ไม่ว่าการเมือง หรือแม้กระทั่งเศรษฐกิจ


แม้จะมีความพยามอย่างเต็มที่ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปลุกความเชื่อมั่นนักลงทุน โดยการนำตัวเลข ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ หรือ จีดีพี มาเป็นจุดขาย แต่ไม่อาจให้นักลงทุนเกิดความมั่นใจได้ โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งโบรกเกอร์บางสำนักประเมินว่า จะยังขายหุ้นต่อเนื่องไปยันไตรมาสที่ 3


ดัชนีหุ้นรอบนี้ ปรับตัวลงมาลึกมาก ลึกจนน่าสนใจช้อนหุ้นเก็บ แต่ถ้าประเมินจากปัจจัยแวดล้อมแล้ว ยังไม่เห็นสัญญาณการปรับตัวสู่ขาขึ้น ดังนั้นจึงผลีผลามลงทุนไม่ได้ เพราะแนวโน้มยังเป็นขาลงอยู่


กลยุทธ์การลงทุนที่ดีมีเพียง การเฝ้ารอคอย หาจังหวะเหมาะ เพื่อเก็บ “ของถูก” และคงไม่ใช่วันนี้


นักลงทุนหลายคนอาจคิดว่า วันนี้หุ้นถูกแล้ว แต่ต้องคิดผิด ติดหุ้นกันเป็นแถว เพราะพรุ่งนี้ยังมีหุ้นที่ถูกกว่าอีก

(สั่งจองหนังสือ “หุ้นวายร้าย” ราคาเล่มละ 190 บาท จากราคาเต็ม 240 บาท โทร. 0-2629-2700 , 08-2782-8353 , 08-2782-8356 )

(สั่งจองหนังสือ “หุ้นวายร้าย” ราคาเล่มละ 190 บาท จากราคาเต็ม 240 บาท โทร. 0-2629-2700 , 08-2782-8353 , 08-2782-8356 )


กำลังโหลดความคิดเห็น