ธสน. ศึกษาตั้งสำนักงานตัวแทนในเวียดนาม

ธสน.อยู่ระหว่างศึกษาตั้งสำนักงานผู้แทนในเวียดนาม หวังหาลู่ทางส่งเสริมการค้าการลงทุนไทย-เวียดนามเพิ่ม คาดเศรษฐกิจเวียดนามจะโตเฉลี่ยปีละ 6% ต่อเนื่องอย่างน้อยอีก 5 ปี ขณะที่ผู้บริโภครายได้ปานกลางจะขยายตัวอย่างรวดเร็วเป็น 33 ล้านคนในปี 63 จาก 12 ล้านคนในปี 57 ทั้งยังหวังผนวก SMEs ไทยเข้ากับซัปพลายเชนของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีธุรกิจอยู่ในเวียดนามด้วย

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ธสน. ไปเยือนเวียดนามเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ได้เข้าพบผู้บริหารระดับสูงจากธนาคารกลางเวียดนาม (State Bank of Vietnam : SBV) ธนาคารเพื่อการพัฒนาเวียดนาม สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย และสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงฮานอย เพื่อหารือเกี่ยวกับกฎระเบียบทางการเงิน โอกาสทางการค้าและการลงทุนของผู้ประกอบการไทยในเวียดนาม แนวทางขยายความร่วมมือระหว่าง ธสน. กับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้องในไทย และเวียดนาม เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนไทย-เวียดนาม ตลอดจนศึกษาความเป็นไปได้ที่ ธสน. จะเข้าไปจัดตั้งสำนักงานผู้แทน ธสน. ในเวียดนาม

นอกจากนี้ ยังได้เดินทางไปยังนครโฮจิมินห์ เพื่อพบกับกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ ประธานสมาคมนักธุรกิจไทยในเวียดนาม และกลุ่มนักธุรกิจไทยในเวียดนาม สมาชิกโครงการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน (Young Entrepreneur Network Development Program : YEN-D Program) และผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ จากภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อแสวงหาลู่ทางขยายความร่วมมือในการส่งเสริมและสนับสนุนการค้าการลงทุนไทย-เวียดนามเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเวียดนามเป็นตลาดที่มีความโดดเด่นหลายประการ อาทิ มีอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกและมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 6% ไปอีกไม่ต่ำกว่า 5 ปีข้างหน้า กลุ่มผู้บริโภครายได้ปานกลางขยายตัวอย่างรวดเร็วจาก 12 ล้านคนในปี 2557 เป็น 33 ล้านคนในปี 2563

นายพิศิษฐ์ กล่าวต่อไปว่า ผู้ประกอบการรายใหญ่ของไทยเข้าไปลงทุนในเวียดนามหลายธุรกิจแล้ว ดังนั้น โอกาสในระยะถัดไปของผู้ประกอบการไทย รวมถึง SMEs จึงอยู่ที่การผนวกเข้ากับซัปพลายเชนของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีธุรกิจในเวียดนาม อาทิ การส่งออกสินค้าไปจำหน่ายในห้างค้าปลีกของไทยในเวียดนาม พร้อมทั้งการเข้าไปเติมเต็มซัปพลายเชนด้วยธุรกิจสนับสนุน อาทิ ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ เพื่อสนับสนุนซัปพลายเชนในอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป นอกจากนั้น ธุรกิจพลังงานก็ยังเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการไทย สอดคล้องกับความต้องการพลังงานของเวียดนามที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ในปัจจุบัน เวียดนามเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 5 ของไทย สินค้าส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป, ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง, รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, เม็ดพลาสติก และเคมีภัณฑ์ ขณะที่เวียดนามเป็นแหล่งนำเข้าอันดับ 13 ของไทย สินค้าสำคัญที่ไทยนำเข้าจากเวียดนาม ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน, น้ำมันดิบ, เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ, เหล็กและผลิตภัณฑ์ และส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ ทั้งนี้ สินค้าส่งออกสำคัญของเวียดนามไปยังตลาดโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ, ยุโรป, จีน และญี่ปุ่น ได้แก่ โทรศัพท์และส่วนประกอบ, สิ่งทอและเสื้อผ้า, ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์, รองเท้า และเครื่องจักรและอุปกรณ์