ครั้งแรก “เสื้อบอลโลก” ลิขสิทธิ์แท้ในไทย ชูกลยุทธ์ราคาถูกสุดในโลกสู้ศึกตลาดมืด

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ฟีฟ่าเวิลด์คัพ รัสเซีย 2018 เริ่มเปิดฉากแล้ว ระหว่างวันที่ 14 มิ.ย.ถึง 15 ก.ค. 2561 โดยเจ้าภาพรัสเซีย ความพิเศษในปีนี้สำหรับแฟนบอลคือ การที่มีนักธุรกิจไทยได้เข้าไปขอซื้อไลเซนส์เพื่อผลิต และจัดจำหน่ายเสื้อผ้าฟีฟ่าเวิลด์คัพ รัสเซีย 2018

นอกจากนี้ สิ่งที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แฟนบอลชาวไทย คือ เมื่อ “นายชัชวีร์ ชีวีวัฒน์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอ็นเอ สปอร์ต จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์ ได้ตั้งราคาเพียงตัวละ 290 บาท เรียกว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเสื้อบอลโลกที่ราคาถูกที่สุดในโลก

นายชัชวีร์ กล่าวว่า ที่มาของการเข้าซื้อลิขสิทธิ์ไลเซนส์ในครั้งนี้เกิดขึ้นมาจากเล็งเห็นสิ่งที่ผู้ประกอบการรายอื่นๆ มองข้ามไป เพราะที่ผ่านมายังไม่มีนักธุรกิจไทยรายไหนเข้าไปซื้อไลเซนส์กับฟีฟ่ามาก่อน เพราะหลายคนมองว่าฟีฟ่าเป็นอะไรที่ดูยิ่งใหญ่ระดับโลก คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะเข้าถึงได้ แต่ที่ผมกล้าเข้าไปครั้งนี้ต้องยอมรับว่าต้องใช้ทั้งความกล้า และต้องทำการบ้าน จะต้องทำอย่างไรให้เขา เชื่อและยอมให้ไลเซนส์ในครั้งนี้ ที่ผ่านมาก็เลยไม่ได้เห็นนักธุรกิจไทยไปซื้อไลเซนส์เพื่อผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับฟุตบอลโลกในประเทศไทยมาก่อน

สำหรับการเข้ามาซื้อลิขสิทธิ์บอลโลกในครั้งนี้ ทาง คุณชัชวีร์ บอกว่า ได้ทำข้อตกลง โดยต้องจ่ายเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย ซึ่งฟีฟ่ากำหนดการการันตียอดขายไม่ต่ำกว่า 200,000 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าหลายสิบล้านบาท ส่วนการตั้งราคาขายครั้งนี้ เป็นราคาที่ทางฟีฟ่าไม่ได้ขัดข้องอะไร แต่คุณภาพและแบบจะต้องไม่ผิดแปลกไปจากแบบที่ทางฟีฟ่ากำหนด ซึ่งการกำหนดราคาเช่นนี้ ทาง คุณชัชวีร์ ต้องการที่จะลงมาแข่งขันในตลาดมืดที่เป็นสินค้าปลอมที่มีขายอยู่เป็นจำนวนมาก และก่อนจะมาซื้อไลเซนส์บอลโลกในครั้งนี้ เขาได้ลงไปคลุกคลี และพอจะรู้ว่าจะทำอย่างไรที่จะเข้าไปแชร์ตลาดสินค้าปลอมเหล่านี้ได้ คือคุณภาพ และราคาที่ไม่สูงเกินไป เพราะการที่ตลาดสินค้าปลอมเติบโตอย่างรวดเร็วมาจากคุณภาพและราคา

ทั้งนี้ การที่คุณชัชวีร์ เข้าซื้อไลเซนส์จากฟีฟาร์เวิลด์คัพครั้งนี้เกิดขึ้นมาจากเดิมเขาทำงานให้บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในตำแหน่งผู้บริหารไลเซนส์ ได้มีโอกาสเข้าไปเจรจาซื้อไลเซนส์แบรนด์ดังหลายแบรนด์ รวมถึงไลเซนส์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาทำให้การเจรจาซื้อลิขสิทธิ์กับฟีฟ่าในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ

"คุณชัชวีร์ " กล่าวว่า การเข้าซื้อลิชสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2018 ในครั้งนี้ สามารถที่จะผลิต และจัดจำหน่ายสินค้าทุกอย่างที่เกี่ยวกับฟุตบอลโลก 2018 ได้ทั้งหมด รวมถึงการนำสัญลักษณ์ฟีฟ่าเวิลด์คัพ รัสเซีย 2018 มาใช้ได้เช่นกัน แต่แฟนบอลชาวไทยไม่นิยมซื้อ และนี่เป็นครั้งแรก ไม่รู้ว่าถ้าผลิตสินค้าอย่างอื่นจะได้รับการตอบรับจากแฟนบอลชาวไทยได้มากน้อยแค่ไหน

ดังนั้น ครั้งนี้ จึงเลือกผลิตเฉพาะเสื้อเชียร์จากทีมที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งครั้งนี้มี 32 ประเทศ แต่เลือกผลิตเพียงแค่ 10 ประเทศ ได้แก่ บราซิล ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน อังกฤษ อาร์เจนตินา รัสเซีย และทีมในเอเชีย ญี่ปุ่น จีน และไทย ซึ่งทีมไทยก็เป็นสมาชิกของฟีฟ่า แม้จะไม่ได้เข้าร่วมแข่งขัน และในส่วนของเสื้อเชียร์บอลจากประเทศจีน เพราะบ้านเรานักท่องเที่ยวจีนอยู่เป็นจำนวนมาก น่าจะขายได้

ในส่วนของการผลิต ได้ว่าจ้างโรงงานผลิตมากกว่า 10 แห่ง เพราะต้องการกระจายงาน ให้กับโรงงานผู้ผลิต ซึ่งบ้านเราก็มีโรงงานผลิตเสื้อผ้ากีฬาที่คุณภาพดีอยู่เป็นจำนวนมาก ในครั้งแรกผลิตออกมาเพียง 240,000-250,000 ตัว เพราะไม่มั่นใจเรื่องการตลาดว่าจะขายได้มากน้อยแค่ไหน และตามข้อตกลงกับฟีฟ่า คือต้องไม่ต่ำกว่า 2 แสนตัว แต่พอเริ่มขาย โดยการทำประชาสัมพันธ์ร่วมกับช่องทางการขายร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 และช่องทางการขายผ่านออนไลน์ ผ่านไปแค่ประมาณ 2-3 เดือน ยอดขาย 2 แสนชิ้นก็หมดไปก่อนที่การแข่งขันฟุตบอลจะเริ่ม โดยเฉพาะในสัปดาห์สุดท้ายก่อนการแข่งขันมีออเดอร์เข้ามามากขนาดรับออเดอร์กันไม่ทัน อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าของไม่ได้คิดว่าจะผลิตเพิ่มในช่วงนี้ สืบเนื่องมาจากการสั่งผลิตแต่ละครั้งต้องใช้เวลาวางแผนและตัดเย็บไม่ต่ำกว่า 6 เดือน

สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายในครั้งนี้ ทางคุณชัชวีร์เลือกขายผ่าน 2 ช่องทางหลักที่ปัจจุบันได้รับความนิยม และเข้าถึงลูกค้าได้ในวงกว้าง นั่นคือ ช่องทางออนไลน์ และช่องทางออฟไลน์ อย่างร้านสะดวกซื้อ 7-11 ผลตอบรับของ 2 ช่องทางอยู่ในสัดส่วนใกล้เคียงกัน

อย่างไรก็ตาม มีช่องทางการขายอื่นๆ เช่น การเปิดชอปในโมเดิร์นเทรด อย่างเทสโก้ โลตัส ปัจจุบันมีด้วยกัน 4 สาขา ซึ่งในช่องทางโมเดิร์นเทรด เดิมเปิดจำหน่ายเสื้อผ้าชุดกีฬาลิขสิทธิ์ที่ทางบริษัท ดูแลอยู่ทั้งหมด 4 แบรนด์ ได้แก่ ไลเซนส์ทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ MCFC RM, BVB, PSG และชุดมวยไทยอีก 1 แบรนด์ คือ ลุมพินีมวยไทย
สนใจ Line: @dnasports

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *

SMEs manager