xs
xsm
sm
md
lg

“พรีบิลท์” ผนึก 2 ยักษ์อสังหาฯ ญี่ปุ่น ผุดคอนโดร่วมทุน “REN สุขุมวิท 39”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

วิโรจน์ เจริญตรา
“พรีบิลท์” แจงปี 61 ปีแห่งการลงทุนด้านธุรกิจอสังหาฯ หลังเดินหน้าเปิดตัว 2 โครงการร่วมทุน ผ่านการลงทุนบริษัทลูก พรีบิลท์โฮลดิ้ง เผยทุ่มเม็ดเงิน 200 ล้านบาทจดทะเบียนตั้งบริษัทลูก อีสแอมอาร์ เล็งพัฒนาโครงการแนวราบ-สูงย่านซีบีดี วางงบซื้อที่ดินรอพัฒนา 1,000 ล้านบาทต่อปี ล่าสุดจับมือ “ชินวะ-Pressance Corporation” ตั้งบริษัทร่วมทุน “ชินวะเอส 39” ผุด REN สุขุมวิท 39 มูลค่า 2,600 ล้านบาท ด้านชินวะ เผยแผนร่วมทุนระยะยาว พัฒนาคอนโดไม่ต่ำกว่า 2 โครงการ

นายวิโรจน์ เจริญตรา รองประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีแห่งการลงทุนของพรีบิลท์ ภายหลังจากขายบริษัทลูก “บิลท์แลนด์” ออกไปทำให้มีรายได้เข้ามากว่า 2,000 ล้านบาท และมีกำไรจากการขายหุ้นดังกล่าวกว่า 300 ล้านบาท โดยรายได้ดังกล่าว พรีบิลท์ ได้นำมาลงทุนในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผ่านบริษัท พรีบิลท์ โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทลูกของพรีบิลท์ 100% มีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท ทำหน้าที่กระจายลงทุนไปในธุรกิจอสังหาฯ ในรูปแบบการร่วมทุน และลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเอง โดยคาดว่าในระยะ 5 ปี จากนี้รายได้ในส่วนของอสังหาฯ จะมีมูลค่าสูงกว่างานภาครับเหมาก่อสร้าง

โดยในปีนี้ พรีบิลท์โฮลดิ้งได้มีการลงร่วมทุนกับบริษัทพรีเมียมเพลช เพื่อพัฒนาโครงการใหม่ 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ วินโต้ เสนานิคม มูลค่า 1,500 ล้านบาท และโครงการทาวน์โฮม ย่านสะพานใหม่ มูลค่า 800 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ได้ก่อตั้งบริษัท อีส แอม อาร์ จำกัด ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท เพื่อพัฒนาอสังหาฯ เน้นการพัฒนาโครงการในพื้นที่เศรษฐกิจใจกลางเมือง (ซีบีด) โดยนโยบายการพัฒนาของบริษัทดังกล่าวในเบื้องต้นจะลงทุนพัฒาโครงการใหม่ 1-2 โครงการ มูลค่าไม่เกิน 5,000 ล้านบาทต่อปี โดยจะใช้งบซื้อที่ดินสะสมรอการพัฒนา 1,000 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ ยังได้ใช้งบกว่า 200 ล้านบาทในการซื้อที่ดินในซอยสุขุมวิท 26 เข้ามา

“ในปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวม 4,800 ล้านบาท ทั้งนี้สาเหตุที่รายได้รวมของปี 60 ค่อนข้างสูง เนื่องจากการขายหุ้นบริษัทลูกออกไป ส่วนปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวมที่ 4,500 ล้านบาท เติบโตประมาณ 10% ซึ่งรายได้ของปีนี้จะมาจากงานรับเหมาก่อสร้างเพียงส่วนเดียว โดย ณ ไตรมาส 2 นี้ บริษัทมีสต๊อกงานก่อสร้างในมือแล้ว 7,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในปีนี้บางส่วน แต่ส่วนใหญ่จะไปทยอยรับรู้รายได้ในปี 62 เป็นหลัก ส่วนในช่วง 2 ไตรมาสที่เหลือ จะเข้าประมูลงานเพิ่ม 4,000 ล้านบาท คาดว่าจะชนะประมูลงานได้ประมาณ 50% ของมูลค่างานที่ร่วมประมูล”

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ล่าสุด “พรีบิลท์” ได้ร่วมกับ ชินวะกรุ๊ป และ Pressance Corporation ก่อตั้งบริษัทร่วมทุน “ชินวะเอส 39” โดยมีทุนจดทะเบียน 600 ล้านบาท ซึ่ง พรีบิลท์ ถือหุ้น 49% ชิวนะ เรียลเอสเตอท (ไทยแลนด์) จำกัด ถือหุ้น 26% และ pressance Corporation ถือหุ้น 25% เพื่อลงทุนพัฒนาโครงการ REN สุขุมวิท 39 มูลค่า 2,600 ล้านบาท ซึ่งการ่วมทุนในครั้งนี้ถือเป็นการรวมเอาจุดแข็งของแต่ละบริษัทมาร่วมสร้างสรรค์โครงการคุณภาพออกสู่ตลาด

นายโทโมยาสุ ยามาเบะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชินวะ เรียลเอสเตท (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า การร่วมทุนในครั้งนี้ แต่ฝ่ายจะนำจุดแข็งของตนเองเข้ามาพัฒนาโครงการ โดยพรีบิลท์ จะทำหน้าที่ด้านงานก่อสร้าง ส่วนชินวะฯ จะนำโฮนฮาวน์การก่อสร้างระบบ “รูเนะสุ” และการออกแบบฟังก์ชันการใช้งานพื้นที่ในโครงการสไตล์ญี่ปุ่น 100% เข้ามาใช้ Pressance Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่มียูนิตเสนอขายเป็นอันดับ 2 ในญี่ปุ่น จะรับหน้าที่บริหารงานงาน และทำการตลาด เนื่องจากโครงการนี้มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน คือ กลุ่มผู้ซื้ออยู่อาศัยเอง ซึ่งมีทั้งคนไทย และญี่ปุ่นที่มาทำงานในประเทศไทย และกลุ่มลูกค้าซื้อเพื่อการลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น

“โครงการ REN Sukumvit 39 เป็นคอนดดมิเนียมสูง 7 ชั้น 2 อาคาร บนพื้นที่ 2 ไร่ 2 งาน 88 ตรารางวา จำนวน 298 ยูนิต มูลค่ารวม 2,600 ล้านบาท ราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรที่ 2 แสนบาทต้นๆ”

นายวิชัย จุฬาโอฬารกุล กรรมการบริหาร ชินวะฯ กล่าวว่า นอกจากโครงการ RENสุขุมวืท39แล้ว “ชินวะเอส 39” ยังมีแผนจะลงทุนโครงการใหม่ 1-2 โครงการ มูลค่าไม่เกิน 5,000 ล้านบาทต่อปีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการประเภทคอนโดมิเนียม อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโครงการแนวราบนั้น ก็ได้มีการพูดคุยกับพรีบิลท์ บ้างแต่ยังอยู่ระหว่างการมองหาที่ดินในทำเลที่เหมาะสมส่วนแผนการลงทุนของ ชินวะฯ ในระยะ 5 ปีจากนี้ จะมีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องโดยในปีที่ 5 มู่ลค่าของการพัฒนาโครงการจะต้องไม่ตำกว่า 7,000 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตในเชิงการลงทุนต่อปี 30-40%

นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ บริษัทจะใช้งบงลงทุนหลักสิบล้านบาทในการติดตั้งเครื่องจักรผลิต ชิ้นส่วนสำเร็จรูประระบบ รูเนะสุ ในโรงงานของบริษัทรับจ้างผลิต เพื่อผลินชิ้นส่วนสำเร็จรูประบบดังกล่าวเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในประเทศไทย และจำหน่ายให้แก้ผู้ประกอบการในฮ่องกง และสิงคโปร์


กำลังโหลดความคิดเห็น