“พรสันติ” บริษัทในเครือ LPN ต่อยอดความสำเร็จ ดันกลุ่มพัฒนาโครงการแนวราบภายใน 3-5 ปี ให้มีรายได้ก้าวสู่ระดับ 50% ของพอร์ตรายได้ทั้งกลุ่ม เผยปี 61 ลงทุนพัฒนา 5 เฟสต่อเนื่อง และโครงการใหม่มูลค่า 1,900 ล้านบาท แย้มเปิดโฉมแบรนด์ใหม่ระดับพรีเมียม “บ้าน365” พัฒนาในนาม LPN เปิดขายเฟสแรกไตรมาส 3 เล็งหาที่ดินโซนพระราม 9 เข็นโครงการต่อ เปิดขายโครงการบ้านลุมพินี ทาวน์พาร์ค ท่าข้าม-พระราม 2 วันนี้ (19 พ.ค.)
นายจรัญ เกษร กรรมการผู้จัดการ บริษัทพรสันติ จำกัด ในเครือ L.P.N. DEVELOPMENT GROUP ผู้พัฒนา “บ้านลุมพินี” เปิดเผยถึงเป้าหมายการพัฒนาโครงการแนวราบของกลุ่มLPNว่า ภายใน 3-5 ปีนับจากนี้ จะผลักดันโครงการแนวราบให้มีสัดส่วนรายได้คิดเป็นร้อยละ 50 ของรายได้รวมทั้งกลุ่ม ซึ่งแนวพัฒนาโปรดักต์จะมีทั้งในส่วนของบ้านลุมพินี ที่ทำตลาดระดับราคา 3-5 ล้านบาท และ 6-8 ล้านบาท และกลุ่มตลาดโครงการแนวราบระดับพรีเมียมที่พัฒนาในนาม LPN ปัจจุบันมีอยู่ 1 โครงการภายใต้แบรนด์ใหม่ “บ้าน365” ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว เริ่มต้น 35 ล้านบาท และทาวน์โฮม ระดับราคา 18-20 ล้านบาท บนเนื้อที่โครงการ 24 ไร่ อยู่บริเวณถนนพระราม 3 เป็นโครงการต้นแบบที่คาดว่าภายในไตรมาส 3 จะเปิดขายเฟสแรก
“บ้าน 365 มีมูลค่าโครงการสูง ซึ่งทุกอย่าง เราต้องทำออกมาให้ดี และขณะนี้กำลังเจรจาจัดหาที่ดินบริเวณพระราม 9 ซึ่งจะอยู่ในซอย โดยจะเป็นโครงการแนวราบอย่างเดียว ไม่เหมือนกับโครงการพระราม 3 ที่ดินค่อนข้างใหญ่จะมีทั้งโครงการคอนโดมิเนียม และบ้านเดี่ยว รองรับความต้องการของลูกค้า "
สำหรับในปี 2561 บริษัท พรสันติ จำกัด ยังคงลงทุนและพัฒนาโครงการบ้านลุมพินีอย่างต่อเนื่อง โดยจะแยกเป็น 5 เฟสใหม่ เช่น โครงการบ้านลุมพินี ทาวน์วิลล์ ลาดปลาดุก-บางไผ่สเตชั่น, โครงการเพิ่มสิน-วัชรพล โครงการโซนรังสิต เป็นต้น และโครงการใหม่ บ้านลุมพินี ทาวน์พาร์ค ท่าข้าม-พระราม 2 รวมมูลค่าโครงการ 1,900 ล้านบาท โดยในปีนี้ ได้วางเป้ายอดขาย 2,000 ล้านบาท คาดว่าในช่วงครึ่งปีแรกน่าจะทำได้ 700 ล้านบาท และตลอดทั้งปีจะได้ตามเป้า เนื่องจากทางบริษัทฯ มีโครงการแนวราบที่พร้อมขายและส่วนที่อยู่ระหว่างดำเนินงานทั้งโครงการเก่า และใหม่ คิดเป็นมูลค่า 3,300 ล้านบาท สามารถรองรับรายได้ถึงปี 2562
“ปีนี้กลุ่มแนวราบ เราจะเดินเครื่องอย่างแรง ซึ่งกำลังจัดทำแผนงาน และเสนอคณะกรรมการบริษัท”
ทั้งนี้ โครงการบ้านลุมพินี ทาวน์พาร์ค ท่าข้าม-พระราม 2 จะมีการเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ที่ 19 พ.ค. นี้ บนเนื้อที่กว่า 26 ไร่เศษ จำนวน 248 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 900 ล้านบาท รองรับความต้องการอยู่อาศัยจริงในราคาที่เหมาะสมเริ่มที่ 2.59 ล้านบาท บนทำเลที่มากด้วยศักยภาพความเป็นเมือง โดยมั่นใจว่ามีความสมบูรณ์พร้อมในแบบ “บ้านลุมพินี บ้านน่าอยู่” ตามแนวทาง “บ้านดี สิ่งแวดล้อมดี ดูแลดี ผู้คนดี” ภายใต้คุณค่าด้านการบริหารจัดการหมู่บ้านที่ดี โดยทีมบริหารงานมืออาชีพจากบริษัท ลุมพินี พรอพเพอร์ตี้มาเนจเมนท์ จำกัด และด้วยทำเลที่ตอบรับกับวิถีชีวิตที่คุ้นเคยของผู้อยู่อาศัยหรือการเดินทางที่สะดวกรวดเร็วไปยังแหล่งงานในเมือง และแหล่งรวมสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2, พอร์โต้ ชิโน่มอลล์, บิ๊กซี, โฮมโปร, โลตัสตลอดจนสถานพยาบาล และสถานศึกษาต่างๆ นอกจากนั้น ยังสามารถไปยังศูนย์กลางธุรกิจ อย่างสาทร สีลม โดยใช้ทางด่วนเฉลิมมหานคร และสะพานภูมิพล ได้อีกด้วย อนาคตก็มีโครงข่ายคมนาคมที่เชื่อมต่อพื้นที่จากย่านถนนพระราม 3 มายังถนนพระราม 2 อีกเป็นจำนวนมาก เชื่อว่าทำเลดังกล่าวจะทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถวางแผนการเดินทางไปยังถนนเส้นสำคัญต่างๆ ได้อย่างสะดวกมากขึ้น
“หลังเปิดให้เข้าชมบ้านตัวอย่างเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าถิ่นเดิมมีความคุ้นเคยกับทำเล และลูกค้าที่มีแผนขยายครอบครัว โดยโครงการมีการออกแบบให้รองรับกับความต้องการของลูกค้าในทุกสไตล์ พร้อมด้วยที่จอดรถ 2 คัน เริ่มต้นบนเนื้อที่ 18 และ 35 ตารางวา กับ 3 รูปแบบ ได้แก่ ทาวน์โฮม 2 ชั้น, ทาวน์โฮม 3 ชั้น ที่มีหน้ากว้าง 5.5 เมตร และบ้านแฝด 2 ชั้น โดยการออกแบบภายในบ้านมีการปรับรูปแบบให้เรียบง่าย และลงตัวในทุกฟังก์ชันการใช้งานให้เหมาะกับการอยู่อาศัยจริงด้านสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการนั้น มีคลับเฮาส์สไตล์โมเดิร์น ประกอบด้วยสระว่ายน้ำ พื้นที่สำหรับพักผ่อน และห้องออกกำลังกาย รวมทั้งพื้นที่สีเขียวของโครงการที่เริ่มตั้งแต่ทางเข้าหลักไปตลอดแนวพื้นที่ระหว่างทางเชื่อมต่อไปยังสวนหลักของโครงการที่ได้อนุรักษ์ต้นจามจุรีใหญ่ดั้งเดิมของพื้นที่เอาไว้อย่างสมบูรณ์ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในโครงการให้เหมาะกับความเป็น “ทาวน์พาร์ค” หรือบ้านสวนให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสธรรมชาติใกล้เมืองได้อย่างแท้จริง เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยทั้งในวันทำงาน และวันพักผ่อนส่วนตัว”.