“นกแอร์” เผยผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2561 ปรับตัวดีขึ้น ขาดทุนน้อยลง เหตุอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก และบริษัทมีการปรับปรุงภายในองค์กรเพื่อลดต้นทุนให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น
นายปิยะ ยอดมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK กล่าวว่า ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม 2561 บริษัทฯ สามารถลดการขาดทุนรวมลงได้อย่างมากจาก 295.57 ล้านบาท ลดลงเหลือเพียง 26.88 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีนี้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า แผนการฟื้นฟูธุรกิจของสายการบินให้ผลลัพธ์อย่างดีดำเนินการแก้ปัญหามาอย่างถูกแนวทาง
“แม้ว่าต้นทุนเชื้อเพลิงจะเพิ่มสูงขึ้น แต่สามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6 จากไตรมาสก่อนหน้า คิดเป็น 4.32 พันล้านบาท เนื่องจากต้นทุนเฉลี่ยต่อที่นั่งลดลง และอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) มีการปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งยังมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย การปรับรูปแบบการจองบัตรโดยสารและแผนการตลาดใหม่ๆ ทำให้นกแอร์เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจได้มากขึ้น เนื่องจากเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลายกลุ่ม และสามารถควบคุมต้นทุนได้เป็นอย่างดี ซึ่งการเพิ่มประสิทธิดังกล่าวมีส่วนทำให้ผลประกอบการโดยรวมของสายการบินดีขึ้น”
ขณะที่การพัฒนาและดำเนินการตามแผนงานที่ได้วางไว้ในไตรมาสแรกนั้น ทำให้นกแอร์สามารถรับมือกับต้นทุนเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นได้ ร้อยละ 23.2 เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ บริษัทฯสามารถเพิ่มจำนวนผู้โดยสารได้ในไตรมาสแรกนี้ ซึ่งทำให้มีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารอยู่ที่ร้อยละ 93.8 เพิ่มขึ้น 6.1 จุด จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยผู้โดยสารเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.83 หรือ 2.52 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 2.43 ล้านคน ซึ่งเป็นผลมาจากผู้โดยสารที่เดินทางในเส้นทางบินจีนที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ นกแอร์ยังได้มีการเพิ่มเส้นทางบินในเส้นทางบินประเทศจีนเป็น 19 เมือง จากเดิม 8 เมือง ทำให้จำนวนผู้โดยสารเฉพาะในเส้นทางบินนี้เพิ่มขึ้นจาก 94,302 คน เป็น 235,363 คน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 149.57 เป็นผลให้รายได้ในเส้นทางบินจีนมีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 19.82 ของรายได้โดยรวมของบริษัท ฯ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 7.51
อย่างไรก็ตามในส่วนของความสามารถด้านการเพิ่มอัตราการใช้เครื่องบินต่อลำ หรือ Aircraft Utilization นั้น นกแอร์ได้ปรับปรุงเวลาเป็น 10 ชั่วโมงปฏิบัติการการบินต่อวัน จากเดิมที่ใช้ 8.23 ชั่วโมงปฏิบัติการการบินต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.5 โดยในปลายไตรมาสที่ผ่านมา นกแอร์มีเครื่องบินอยู่ในฝูงบินจำนวน 29 ลำ ลดลงจากจำนวนฝูงบินเฉลี่ยอยู่ที่ 31.26 เมื่อปีที่แล้ว และสายการบินได้เพิ่มเส้นทางบินภายในประเทศเพิ่มขึ้น 2 เส้นทาง ทำให้ในไตรมาสแรกนกแอร์มีเส้นทางบินภายในประเทศ จำนวน 25 เส้นทาง ขณะที่เส้นทางบินระหว่างประเทศยังคงเดิมอยู่ที่ 3 เส้นทางบิน