เปิดงานสถาปนิก'61 สินค้าจีนทยอยยึดพื้นที่การจัดงาน หวังขยายฐานลูกค้า ด้านผู้บริหาร UMI ยอมรับ การยกเลิกมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด ส่งผลให้จีนทะลักเข้ามาอย่างหนัก พร้อมปรับแผน หันเน้นดีไซน์ รับจ้างผลิตสินค้าให้กับผู้นำเข้า เผยตัวเลขเป้ายอดขายปีนี้ 2,700 ล้านบาท ค่าย “วิลเลรอย” รุกตลาดสุขภัณฑ์หรู เจาะลูกค้าโครงการอสังหาฯ ระดับไฮเอนด์และกลุ่มผู้ใช้ระดับเศรษฐี
วานนี้ (2 พ.ค. 61) สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ และบริษัท ทีทีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกันเปิดงานสถาปนิก’61 ซึ่งเป็นการจัดงานครั้งที่ 32 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแสดงศักยภาพ การจัดแสดงสินค้านวัตกรรมและเทคโนโลยีการก่อสร้างวัสดุผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับงานสถาปัตยกรรม การออกแบบตกแต่งภายใน ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ มุ่งเน้นการยกระดับความเป็นสากลของงาน ซึ่งมี 850 บริษัท ได้เข้าร่วมงาน
นายศุภแมน มรรคา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีทีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้จัดการ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ มีสินค้าแบรนด์ชั้นนำของไทยและบริษัทต่างประเทศเข้าร่วมงานมากขึ้นกว่า 35% จากปีก่อนที่มีประมาณ 28% ประเทศที่เข้ามามีทั้งจากทวีปเอเชีย ยุโรป อเมริกา อาทิ จีน, ไต้หวัน, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินเดีย, ออสเตรเลีย, เวียดนาม และสาธารณรัฐเช็ก รวมถึง IMAG บริษัทชั้นนำจากประเทศเยอรนี ผู้จัดงานแสดงสินค้าด้านการก่อสร้างมาแล้วทั่วโลก ที่นำเอาเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ก่อสร้างระดับสูงมาให้ชม โดยงานสถาปนิกฯ จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1-6 พ.ค. 61 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ทั้งนี้ คาดว่าการจัดงานครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นยอดขายต่อเนื่องไปถึงสิ้นปีประมาณ 10,000 ล้านบาท คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 4 แสนคน
“สินค้าจากจีนเข้ามาแรง เข้ามาเยอะกว่า 10-20% ซึ่งสินค้าจากจีนได้เปรียบกว่าคู่แข่ง เนื่องจากรัฐบาลมีการสนับสนุนทางการเงิน ในการช่วยเหลือผู้ผลิตในการเข้าไปทำตลาดยังต่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้ากระเบื้องจากจีนเข้ามาตีตลาดในไทย ซึ่งที่ผ่านมา จะเห็นว่า กระเบื้องราคาถูกจากจีนเข้ามา แต่ขณะนี้มีการยกระดับการทำตลาดมาสู่ระดับพรีเมียมมากขึ้น มีเรื่องของนวัตกรรมเข้ามาเสริม เช่น ในกลุ่มสินค้าครัว ลิฟต์ เป็นต้น”
ยกระดับดีไซน์สู้จีนตีตลาดไทย
นายสมบูรณ์ อุรานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า UMI หลังจากรัฐบาลได้ยกเลิกมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้ากระเบื้องปูพื้น และติดผนัง ที่มีแหล่งกำเนิดจากสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า ส่งผลให้สินค้าจากจีนเข้ามาทำตลาดเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมา สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ทำหนังสือไปถึงรัฐบาลว่า ผู้ประกอบการไทยได้รับผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในประเทศ แต่ปรากฏว่า ผู้ประกอบการรวมตัวกันไม่ถึง 50% จึงไม่เป็นเอกฉันท์ เรื่องดังกล่าวจึงตกไป
“ยอมรับว่า ผลจากการยกเลิกมาตรการดังกล่าวทำให้สินค้ากระเบื้องจากจีนเข้ามารุนแรง และดุเดือด ซึ่งสินค้าจีนมีส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มสินค้าแมส สูงถึง 50% โดยมูลค่าตลาดกระเบื้องในปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 33,000 ล้านบาท หรือประมาณ 220 ล้านตารางเมตร (ตร.ม.) แยกเป็นสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ 25% ในจำนวนดังกล่าวกว่า 75% เป็นสินค้าจากประเทศจีน และที่น่ากลัวตรงนี้ ทางผู้ผลิตจีนได้ทำการรุกตลาดดีลเลอร์ในไทยเพิ่มมากขึ้นด้วย และคาดว่าภายใน 10 ปีข้างหน้า สินค้านำเข้าจากจีน จะเพิ่มเป็น 50% และคาดว่า มูลค่าตลาดรวมน่าจะมีการเติบโตที่สูงขึ้น”
ในส่วนของ UMI จะปรับน้ำหนักเรื่องนวัตกรรม การปรับเพิ่มดีไซน์ให้มากขึ้น เพราะสินค้ากระเบื้องเป็นเรื่องของแฟชั่น ตรงนี้เราสามารถสู้ได้ รวมถึงการเข้าไปรับจ้างผลิตให้กับบริษัทที่จะนำเข้าสินค้าจากจีน โดยในปีนี้ UMI จะมีการเปิดตัวกระเบื้องใหม่ถึง 150-200 แบบจาก 2 แบรนด์ คือ ดูราเกรส และ “เชอร์เกรซ” ของบริษัท ที.ที.เซรามิก จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ โดยทั้งสองบริษัทมีกำลังการผลิต 75% จากกำลังการผลิตรวม 29 ล้าน ตร.ม. ต่อปี
“แม้ว่าค่าแรงจะปรับขึ้น แต่บริษัทได้ปรับกลยุทธ์มาทำโปรดักต์มิกซ์ เพื่อให้สามารถทำราคาในตลาดได้สูงขึ้น โดยในปีนี้วางเป้ายอดขายทั้งกรุ๊ป ประมาณ 2,700 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 5% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับการเติบโตของตลาดรวมกระเบื้องในปีนี้”
“วิลเลรอย” รุกตลาดสุขภัณฑ์หรู-เจาะลูกค้าเศรษฐี
นางสาวปรวรรณ มหัทธนะสุข ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท วิลเลรอย แอนด์ บอค (ประเทศไทย) จำกัด ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แบรนด์สุขภัณฑ์หรูจากประเทศเยอรมนี ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนานกว่า 270 ปี กล่าวถึงแผนธุรกิจในปีนี้ว่า ทางบริษัทกำลังพิจารณาการลงทุนคลังสินค้า (เวย์เฮาส์) ที่อยู่ใกล้กับโรงงานที่จังหวัดสระบุรี เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ รวมถึงการลงทุนเปิด 2 โชว์รูมในพื้นที่ รามอินทรา และบริเวณงามวงศ์วาน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 6 โชว์รูม เพื่อให้สามารถเสนอสินค้าให้กับผู้บริโภคได้
“ในปีนี้ เราต้องการเป็นผู้นำด้านสินค้าสำหรับห้องน้ำในตลาดบนในประเทศไทย โดยจะเจาะตลาดในกลุ่มงานโครงการระดับบนอย่างต่อเนื่อง พร้อมขยายช่องทางจัดจำหน่ายให้มากขึ้น โดยเราวางรายได้หลักเป็นสินค้ากลุ่มเซรามิก ทั้งในส่วนของสุขภัณฑ์ และอ่างล้างหน้า ประมาณ 90% ส่วนที่เหลือจะเป็นกลุ่มสินค้าคู่เคียง เช่น อ่างอาบน้ำ เฟอร์นิเจอร์ ก๊อกน้ำ และอุปกรณ์ต่างๆ อย่างไรก็ตาม แม้ลูกค้าหลักจะเป็นโครงการที่อยู่อาศัยและโรงแรมระดับบน สัดส่วน 80% และรายย่อย 20% แต่ในปีนี้จะเพิ่มน้ำหนักกลุ่มลูกค้าผู้ใช้มากขึ้น ผ่านสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคมากขึ้น โดยตามแผนอีก 3-5 ปีข้างหน้า เราตั้งเป้าเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยต้องการเป็นผู้นำสินค้าในสินค้าระดับไฮเอนด์ และครองส่วนแบ่งการตลาดสำหรับงานโครงการใหม่ๆ เช่น บ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียมระดับบน ให้ได้ไม่น้อยกว่า 30%”
นายสมเกียรติ ปวริศร์พงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์นฟอร์ม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับภายในบูท มีไฮไลต์ คือ โปรเจกต์ Co-Creation นวัตกรรมสำนักงานแห่งอนาคต ที่โมเดอร์นฟอร์มร่วมกับ Exzy พัฒนาขึ้นมา ก็คือ Office Automation TYechnology ที่นำ Meet In Touch ระบบการของห้องประชุมมาใช้ ซึ่งความร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง Exzy ทำให้โมเดอร์นฟอร์มสามารถนำเสนอเฟอร์นิเจอร์สำนักงานที่เหนือระดับ ด้วยการผสานความทันสมัยของเทคโนโลยีที่เอื้อประโยชน์ต่อการทำงานยุคใหม่ไว้ได้อย่าลงตัว
“เฌอร่า” พลิกดีไซน์เปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม ไม้ และหลังคา
นายประกรณ์ เมฆจำเริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เฌอร่า จำกัด (มหาชน) ผู้นำในการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ ภายใต้แบรนด์ เฌอร่า (SHERA) และกระเบื้องหลังคาตราห้าห่วง (HaHuang) กล่าวว่า งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม ครั้งที่ 32 หรืองานสถาปนิก’ 61 นับเป็นงานแสดงเทคโนโลยีก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน เฌอร่า ได้เนรมิตพื้นที่การจัดงานในส่วนของเฌอร่า เป็น “เฌอร่า พาวิลเลียน” ภายใต้แนวคิด “BEYOND ORDINARY” ซึ่งเป็นการนำความธรรมดาของวัสดุเฌอร่า ออกมาในรูปแบบที่ไม่ธรรมดา อย่างผลิตภัณฑ์ที่เป็นจุดเด่นของงาน คือ แผ่นพื้นเฌอร่าบอร์ด ที่มีจุดขายในเรื่องของความทนทานด้วยเทคโนโลยี คริสตัล เอนจิเนียร์ริง ซึ่งแม้จะมีความแข็งแกร่งทนทาน แต่น้ำหนักเบาเมื่อเปรียบเทียบกับคอนกรีตสำเร็จรูป ซึ่งภายในพาวิลเลียน จะนำเสนอให้เห็นความแข็งแกร่ง และความทนทาน ของแผ่นพื้นเฌอร่าบอร์ด ที่ธรรมดา แต่สามารถสร้างความไม่ธรรมดา ด้วยการก่อรูปของพื้นที่ให้สอดคล้องกับประโยชน์การใช้งานจริง โดยเนรมิตแผ่นพื้นเฌอร่าบอร์ดให้เป็นพื้น และผนัง ดีไซน์ความสวยงามด้วยการตัด ตอก เจาะ โดยที่วัสดุยังคงเรียบสวย และโชว์ให้เห็นถึงคุณสมบัติของวัสดุที่มีความทนทาน ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ในเรื่องของงานดีไซน์ที่ไม่มีขีดจำกัดได้อีกด้วย
นอกจากนี้ เฌอร่า ได้เปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ไม้ และ ผลิตภัณฑ์หลังคา ได้แก่ ไม้เฌอร่า ชายน์ไลท์ (SHERA Shine Light) ในประเภทไม้ฝา ไม้ระแนง และไม้รั้ว ที่พิเศษด้วยการเคลือบเงาเพิ่มความแวววาว สวยงาม และสีที่คงทน ให้ไม้ไฉไลยาวนานไม่เปลี่ยนแปลง และหลังคาเฌอร่าซีดาร์ เชค สีเมโทร เกรย์ หลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ในสไตล์ธรรมชาติ เสมือนหลังคาไม้สนซีดาร์ แต่มีอายุการใช้งานยาวนาน และดูแลรักษาง่ายกว่า โดยเฉดสีใหม่อย่างสีเทาเมโทรเกรย์ สะท้อนความสุขุม เสน่ห์ และความโมเดิร์นของกลิ่นอายเมืองใหญ่