ซีพีแอล กรุ๊ป บุกตลาดเซฟตีโปรดักต์

ซีพีแอล กรุ๊ป เดินหน้าทำตลาดสินค้าป้องกันภัยส่วนบุคคล ดันแบรนด์ “แพงโกลิน” หัวหอกบุกตลาดเซฟตีโปรดักต์ เผยเตรียมตั้งสำนักงานในเวียดนาม มุ่งขยายตลาดอาเซียน พร้อมๆ กับเปิดพื้นที่ในต่างจังหวัดทั่วประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ ล่าสุดเปิดตัว “กำแพงกั้นน้ำ” สินค้าใหม่ต้อนรับฤดูฝน ด้วยคุณสมบัติกั้นน้ำขนาดความสูง 50 เซนติเมตร เหมาะสำหรับทั้งโรงงานอุตสาหกรรม, โรงแรม, โรงเรียน, คอนโดมิเนียม และบ้านเรือนทั่วไป เชื่อโอกาสสินค้าเซฟตีโปรดักต์ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง ตั้งเป้ายอดขายปีนี้เพิ่มขึ้นอีก 10%

นายภูวสิษฏ์ วงษ์เจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีแอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CPL ผู้นำอุตสาหกรรมฟอกหนังสำเร็จรูปรายใหญ่ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (เซฟตีโปรดักต์) ภายใต้แบรนด์ “แพงโกลิน” ซึ่งเป็นกิจการในกลุ่มบริษัทเจริญสิน ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมายาวนานถึง 24 ปี เปิดเผยว่า ในปีนี้ CPL จะทำตลาดสินค้าในกลุ่มป้องกันภัยหรือเซฟตีโปรดักต์อย่างจริงจัง หลังจากแบรนด์ “แพงโกลิน” ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมดังกล่าว ได้โอนกิจการทั้งหมดมารวมกับ CPL มาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว โดยแผนงานที่สำคัญ ได้แก่ การบุกตลาดเซฟตีโปรดักต์ในอาเซียน ซึ่งในเร็วๆ นี้ บริษัทฯ มีแผนจะเข้าไปตั้งสำนักงานที่ประเทศเวียดนาม

“การเข้าไปตั้งสำนักงานในเวียดนามนั้น ต้องบอกว่า เราได้ทั้ง 2 ขาธุรกิจ หนึ่งคือ ธุรกิจฟอกหนัง ซึ่งเป็นธุรกิจดั้งเดิมของ CPL ทีปัจจุบันลูกค้ารายสำคัญๆ ของเราย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีนมายังเวียดนามเพิ่มขึ้น ทำให้เราสามารถดูแลลูกค้าได้สะดวกขึ้น และสอง คือ ธุรกิจเซฟตีโปรดักต์ที่ขณะนี้เศรษฐกิจเวียดนามกำลังอยู่ในช่วงของการเติบโต มีการลงทุนจากต่างประเทศ ทำให้อุตสาหกรรมต่างๆ มีความคึกคัก นั่นทำให้สินค้าเซฟตีโปรดักต์มีโอกาสเติบโตตามไปด้วย ซึ่งการรุกขยายตลาดเข้าสู่ประเทศเวียดนามครั้งนี้ จะทำให้แผนการทำตลาดในอาเซียนของแบรนด์ “แพงโกลิน” เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้” นายภูวสิษฏ์ กล่าว

นอกจากนี้ CPL ยังมีแผนที่จะขยายแบรนด์ “แพงโกลิน” ในต่างจังหวัดทั่วทุกภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีเขตอุตสาหกรรม โดยขณะนี้ได้เพิ่มช่องทางขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่นิยมสืบค้นข้อมูล และสั่งซื้อทางออนไลน์ โดยตั้งเป้าว่า ช่องทางออนไลน์นี้จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับสินค้า และจะทำให้เป้าหมายการเติบโตของธุรกิจเซฟตีโปรดักต์ ภายใต้การบริหารจัดการของ CPL ขยายตัวเพิ่มขึ้น 10% จากปีที่ผ่านมา

นายภูวสิษฏ์กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เซฟตีโปรดักต์ให้มีความหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดตัวและทำตลาดสินค้าใหม่ ได้แก่ กำแพงกั้นน้ำ NOAQ Boxwall ซึ่งเหมาะกับโรงงานอุตสาหกรรม, โรงแรม, โรงเรียน และคอนโดมิเนียม รวมทั้งบ้านเรือนประชาชนทั่วไปที่มีโอกาสประสบปัญหาน้ำท่วม หรือน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝน

สำหรับกำแพงกั้นน้ำ NOAQ Boxwall นั้น เป็นนวัตกรรมที่ได้รับการออกแบบจากบริษัท NOAQ ประเทศสวีเดน เหมาะกับสภาพแวดล้อมในเมืองและเหมาะสำหรับพื้นผิวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นยางมะตอย หรือพื้นคอนกรีต กำแพงกั้นน้ำดังกล่าวมีน้ำหนักประมาณ 3.4 กิโลกรัมต่อชิ้น วัสดุผลิตจากพลาสติก ABS หนา 6 มิลลิเมตร วิธีใช้งานสะดวกเพียงแค่นำมาวางเรียงต่อกันเหมือนกำแพง ก็สามารถตั้งอยู่บนพื้นได้ด้วยตัวเองตามน้ำหนักของน้ำที่กดทับ โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือในการติดตั้ง และสามารถป้องกันน้ำท่วมสูงได้ถึง 50 เซนติเมตร

“ถ้าเทียบระหว่างกำแพงกั้นน้ำกับกระสอบทรายที่เราใช้สำหรับกั้นน้ำ กำแพงกั้นน้ำจะใช้พื้นที่ในการจัดเก็บน้อยกว่า 20 เท่า น้ำหนักเบากว่า 177 เท่า ขณะที่ราคาและต้นทุนการติดตั้งรื้อถอนก็คุ้มค่ากว่า เนื่องจากอายุการใช้งานของกำแพงกั้นน้ำจะอยู่ที่ 10 ปีขึ้นไป ซึ่งหลังจากที่เราได้เริ่มแนะนำและเปิดตัวสินค้าอย่างไม่เป็นทางการแล้ว ปรากฏว่าได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาก โดยหลังจากนี้ CPL จะเดินหน้าพัฒนาสินค้าในกลุ่มเซฟตีโปรดักต์ ให้มีความหลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค เพื่อทำให้ธุรกิจเซฟตีโปรดักต์แข็งแรงขึ้น และในอนาคต โครงสร้างรายได้ของ CPL ก็จะปรับเปลี่ยนไปจากที่เคยพึ่งพิงอุตสาหกรรมฟอกหนัง ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีวัฏจักรขึ้นลง เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการเติบโตของบริษัทฯ ต่อไป” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CPL กล่าว