กสิกรไทยจับมือลอมบาร์ด โอเดียร์ (สิงคโปร์) ประกาศความสำเร็จขาย 3 กองทุน ทะลุ 3 หมื่นล้านบาท ในเวลาเพียง 3 ปี พร้อมเดินหน้าเสนอขายกองใหม่ที่ครอบคลุมตลาดศักยภาพสูง และบริการด้านการบริหาร และให้คำปรึกษาจัดการทรัพย์สินครอบครัว ตั้งเป้าปีนี้มีลูกค้ากว่า 3 หมื่นราย ผลิตภัณฑ์การลงทุนเติบโต 2 หมื่นล้าน
นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Business Group Head ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า นับจากปี 2558 ที่ธนาคารได้ร่วมกับพันธมิตร ลอมบาร์ด โอเดียร์ (สิงคโปร์) ผู้ให้บริการไพรเวตแบงก์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อยกระดับบริการไพรเวทแบงก์ และส่งมอบบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคลครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูง (HNWIs) ในประเทศไทย โดยจากการนำเสนอแนวทางการบริหารพอร์ตแบบ Risk-based Approach เป็นการลงทุนที่เน้นการบริหารความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน ขณะเดียวกัน ก็สามารถส่งมอบผลตอบแทนตามเป้าหมายได้ตลอดระยะเวลาการลงทุนไปแล้วนั้น ปัจจุบัน กองทุนที่ธนาคารกสิกรไทย พัฒนาร่วมกับ ลอมบาร์ด โอเดียร์ จำนวน 3 กองทุน ได้แก่ K-SGM, K-GREAT และ K-APB มีมูลค่ากองทุนรวมกันทะยานสู่ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 3 หมื่นล้านบาทไทยแล้ว หลังร่วมมือกับลอมบาร์ด โอเดียร์ ในเวลาเพียง 3 ปีเท่านั้น
“ธนาคารมีความมุ่งมั่นในการส่งมอบบริการไพรเวทแบงก์ที่เป็นเลิศและครบวงจรที่สุดของไทย การร่วมกับพันธมิตร ลอมบาร์ด โอเดียร์ (สิงคโปร์) ผู้ให้บริการไพรเวตแบงก์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่เก่าแก่ และให้บริการลูกค้าสินทรัพย์สูงทั่วโลก ดำเนินธุรกิจนานกว่า 222 ปี มาร่วมพัฒนาบริการ ยกระดับบริการไพรเวตแบงก์ พร้อมทั้งนำเสนอผลิตต่างๆ แก่ลูกค้าในกลุ่มบุคคลสินทรัพย์สูง จากผลตอบรับจากมูลค่าการลงทุนในกองทุนดังกล่าวเป็นเครื่องสะท้อนว่า ผลิตภัณฑ์ที่ธนาคารนำเสนอสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงเป้าหมาย”
อย่างไรก็ตาม ธนาคารกสิกรไทย และลอมบาร์ด ยังคงเดินหน้าพัฒนาบริการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งผลิตภัณฑ์เพื่อการลงทุนในตลาดที่มีศักยภาพ มีกลไกการลงทุนที่ชาญฉลาด รวมทั้งการพัฒนาบริการที่มากกว่าการลงทุน เพื่อดูแลทุกมิติในชีวิตของลูกค้าอย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริการด้านการบริหารและให้คำปรึกษาจัดการทรัพย์สินครอบครัว (Family Wealth Planning Services) ซึ่งธุรกิจไพรเวตแบงก์ ธนาคารกสิกรไทย ถือเป็นผู้ให้บริการแห่งแรกๆ ในประเทศไทย ที่สามารถให้บริการได้อย่างครอบคลุมตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เสริมด้วยประสบการณ์ และองค์ความรู้ 222 ปีของลอมบาร์ด โอเดียร์ ประยุกต์เข้ากับความต้องการของคนไทย จนในปีนี้ได้รับรางวัลระดับโลกจาก EUROMONEY PRIVATE BANKING SURVEY 2018 ในหมวด “ผู้ให้คำปรึกษาวางแผนส่งต่อความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่น และ ทรัสต์ ดีที่สุด (Best Bank for Succession Planning Advice and Trusts, Thailand)” ซึ่งเป็นรางวัลที่แสดงให้เห็นถึงการได้รับยอมรับความเป็นที่หนึ่งจากคนในอุตสาหกรรมเดียวกัน
นอกจากการให้บริการกับลูกค้าไพรเวตแบงก์แล้ว ในฐานะพันธมิตร ทางลอมบาร์ด โอเดียร์ ยังได้พัฒนาหลักสูตรอบรมเฉพาะสำหรับทีมงานไพรเวตแบงก์เกอร์ และทีมงานสนับสนุน โดยหลักสูตรจัดอย่างเข้มข้นครอบคลุมทั้งด้านการบริหารจัดการการลงทุน และแนวทางการให้บริการในระดับสากล รวมทั้งยังแบ่งปันองค์ความรู้ และความเชี่ยวชาญในการลงทุนในตลาดโลก ผ่านทางความร่วมมือระหว่างทีมที่ปรึกษาทางการเงินของทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อพัฒนาเป็นกลยุทธ์ คำแนะนำ และแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์อีกด้วย
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในปี 2561 จำนวนลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูง (HNWIs) หรือ กลุ่มลูกค้าที่มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการมากกว่า 50 ล้านบาท ในประเทศไทย จะมีประมาณ 30,800 ราย โดยปัจจุบัน ธนาคารกสิกรไทย ให้บริการลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงมากกว่า 10,500 ราย สินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ทั้งหมดประมาณ 7.5 แสนล้านบาท ครองส่วนแบ่งการตลาด 34% ตั้งเป้าหมาย ปี 2561 ผลิตภัณฑ์การลงทุนเติบโต 2 หมื่นล้านบาท