แบงก์ชาติปรับเพิ่มวงเงินประมูลพันธบัตร ธปท. ระยะ 3 เดือน และ 6 เดือน ในเดือนพฤษภาคม 2561 เพื่อดูแลภาวะตลาด สภาพคล่อง และความต้องการลงทุนพันธบัตรของนักลงทุนในประเทศ พร้อมติดตามค่าเงินอย่างใกล้ชิตหากพบเก็งกำไรพร้อมเปลี่ยนแปลงมาตราการเข้าดูแลทันที
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของประเทศอุตสาหกรรมหลัก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นนั้น ไม่กระทบต่อตลาดการเงินไทย เพราะปัจจุบัน สภาพคล่องในประเทศ และธนาคารพาณิชย์ ยังอยู่ในระดับสูง จึงไม่ใช่สิ่งที่กังวลมากนัก และการปรับเปลี่ยนนโยบายในปัจจุบันเป็นเรื่องปกติตามการบริหานดูแลเศรษฐกิจโดยรวม และทันต่อสถานการณ์สำหรับประเทศไทยที่ผ่านมา ได้เตือนนักลงทุน หรือ ประชาชน ที่กู้เงินตราต่างประเทศ เป็นสิ่งที่ต้องระวัง เนื่องจากต้นทุนทางการเงินต่างประเทศอยู่ในระดับสูง
“สิ่งที่ต้องระวังตอนนี้ การทำนโยบายการเงิน นโยบายการคลังของประเทศอุตสาหกรรมหลัก และการกู้ยืมเงินต่าง ๆ ในต่างประเทศ ขณะที่เงินไหลออกจากตลาดหุ้น บอนด์นั้น ก็ไม่ได้อยู่ในระดับที่น่ากังวล หรือต้องติดตามเป็นพิเศษ เพราะเป็นการปรับเปลี่ยนตามความเสี่ยง ส่วนอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ แม้จะเห็นการปรับขึ้นบ้าง แต่ก็ต้องบอกว่า ยังต่ำกว่าช่วงวิกฤติเศรษฐกิจคงไม่ได้มีอะไร เพราะเป็นเรื่องที่รับรู้อยู่แล้ว” นายวิรไท กล่าว
นางสาววชิรา อารมย์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า นับตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว ธปท. ได้ทยอยปรับลดการออกพันธบัตร ธปท. ระยะสั้น เพื่อลดแรงกดดันต่อค่าเงินบาท โดยการลดแรงจูงใจและลดช่องทางในการเข้ามาพักเงินของนักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ตาม ภาวะตลาดการเงินโลกในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางประเทศหลัก และความผันผวนในตลาดการเงินโลกที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความน่าสนใจในพันธบัตรระยะสั้นไทยของนักลงทุนต่างชาติปรับลดลงบ้างในระยะหลัง นอกจากนี้ ปริมาณพันธบัตรภาครัฐระยะสั้นที่ค่อนข้างจำกัดทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง ซึ่งอาจกระทบต่อช่องทางการออม และส่งผลต่อพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนของนักลงทุนในประเทศ รวมทั้งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงอื่นในตลาดการเงินในบางช่วง
ธปท. ทบทวนสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปดังกล่าวแล้ว เห็นว่าเหมาะสมที่จะพิจารณาผ่อนคลายมาตรการดังกล่าว โดยจะเริ่มปรับเพิ่มวงเงินประมูลพันธบัตร ธปท. ระยะ 3 เดือน และ 6 เดือน ในเดือนพฤษภาคม 2561 ทั้งนี้ การกำหนดวงเงินประมูลจะคำนึงถึงภาวะตลาด สภาพคล่อง และความต้องการลงทุนพันธบัตรของนักลงทุนในประเทศ รวมทั้งปริมาณพันธบัตรระยะสั้นของภาครัฐโดยรวม เพื่อให้การปรับตัวของตลาดเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
การปรับเพิ่มวงเงินพันธบัตร ธปท. ครั้งนี้ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณหรือสะท้อนมุมมองนโยบายการเงินของ กนง. แต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ธปท. จะยังคงติดตามภาวะอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด และตรวจสอบธุรกรรมเงินตราต่างประเทศที่อาจเอื้อให้เกิดการเก็งกำไรค่าเงินบาท รวมทั้งพร้อมที่จะทบทวนมาตรการดูแลที่มีอยู่ หากสถานการณ์เปลี่ยนไปและมีความจำเป็น