นายแบงก์ประสานเสียงหนุนแนวคิดควบรวมกิจการ ช่วยเพิ่มฐานลูกค้า และโอกาสแข่งขันในภูมิภาค
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อจูงใจให้ธนาคารในประเทศมีการควบรวมกิจการว่า ดีใจที่ภาครัฐเห็นความสำคัญ และถือว่าเป็นสิทธิประโยชน์ที่ดี ทำให้ธนาคารมีโอกาสควบรวมกิจการ และได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี แต่สถาบันการเงินแต่ละแห่งต้องดูความเหมาะสม ความพร้อมความจำเป็น เพราะแต่ละธนาคารมีจุดแข็งและพื้นฐานที่ไม่เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการควบรวมกิจการจะทำให้ขนาดของธนาคารใหญ่ขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีทำให้ฐานลูกค้าโตขึ้นตามไปด้วย และจะมีผลบวกทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์ในหลากหลายมิติกับลูกค้า ซึ่งท้ายที่สุด ลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากการปรับปรุงบริการและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้ตรงกับความต้องการ เพราะปัจจุบัน ธนาคารใช้เทคโนโลยีเข้ามาทดแทนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแทนสาขาธนาคารมีแนวโน้มลดลง
ด้านนายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพ ยังไม่มีแนวคิดจะควบรวมกิจการ แต่มองว่าการควบรวมกิจการจะช่วยให้มีขนาดการแข่งขันเหมาะสมมีขีดความสามารถในการเสนอบริการสำหรับลูกค้าทั้งในประเทศ และภูมิภาค และช่วยให้ธนาคารมีความสามารถในการแข่งขันระดับภูมิภาค
ส่วนภาพรวมการขยายสินเชื่อของธนาคารกรุงเทพ ปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดว่า ขยายตัวร้อยละ 4-6 ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่น่ากังวล
นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า การควบรวมกิจการเป็นเรื่องที่ดี ทำให้ธนาคารมีความแข็งแกร่ง แต่ต้องดูพื้นฐานแต่ละธนาคารด้วย โดยปัจจุบัน ธนาคารไทยพานิชย์ มีการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรม เข้ามาเป็นตัวเสริม เพื่อให้ธนาคารเติบโต และแข็งแรง ขณะเดียวกัน ธนาคารจะเน้นการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นส่วนสำคัญมากที่สุด โดยธนาคารอยู่ระหว่างการปรับทัพองค์กรสู่ดิจิทัล โดยตั้งเป้าจะมีผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน SCB EASY เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 14 ล้านรายภายในเวลา 2-3 ปี