ครม.เห็นชอบแก้ไขกฎหมาย กบข. หวังเปิดให้สมาชิกโอนทรัพย์สินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพก่อนสอบเป็นราชการเข้ากองทุน กบข. ได้ กำหนดเพิ่มเพดานนำเงินส่งสมทบเป็น 30% จากปัจจุบันที่กำหนดไว้ 15% ทั้งยังให้ กบข. นำเงินสำรองยามฉุกเฉินจ่ายคืนสมาชิกในกรณีที่รัฐบาลยังสมทบให้ไม่ทัน และสามารถนำไปฝากในรูปสินทรัพย์ที่มีความมั่นคง ซึ่งนอกเหนือจากการซื้อบอนด์รัฐบาลเพิ่มได้
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการประชุม ครม. เห็นชอบให้ดำเนินการแก้ไขร่าง พ.ร.บ. กองทุนบำเน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เพื่อเปิดทางให้ปรับเพิ่มเพดานการส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฯ เป็น 30% ของเงินเดือน จากเดิมที่กำหนดไว้ที่ 15% เพื่อให้สมาชิกสามารถสมทบเงินเอาไว้ใช้ในระยะยาวได้เพิ่มมากขึ้น และเปิดทางให้ตั้งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมเพื่อหาผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่กองทุน กบข. ด้วย
นอกจากนี้ ประชุม ครม. ยังเห็นชอบที่จะกำหนดให้กองทุนสามารถรับเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนอื่นที่มีวัตถุประสงค์การประกันออกจากงาน หรือชราภาพ เข้ามาบริหารตามความต้องการของสมาชิก พร้อมทั้งมีสิทธิเลือกแผนการลงทุนได้มากขึ้น และลดปัญหาการบริหารงานบุคคล เนื่องจากหน่วยงานบางประเภทบัญญัติให้เกษียณอายุราชการ ภายหลังจากอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ เช่น ราชการตุลาการ และอัยการ เป็นเหตุให้ข้าราชการบางประเภทได้รับเงินจาก กบข. ล่าช้ากว่าหน่วยงานอื่น
นอกจากนี้ ยังให้ กบข. นำเงินสำรองในยามฉุกเฉิน หากรัฐบาลสมทบให้ไม่ทันเพื่อจ่ายคืนสมาชิก สามารถนำไปฝากในสินทรัพย์มั่นคงที่นอกเหนือจากการซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพิ่ม ทั้งนี้ จากกฎหมายเดิมกำหนดให้ลงทุนในทรัพย์สินมั่นคงสูงสัดส่วน 60/40 จึงอาจไม่มีความคล่องตัว และเพื่อต้องการเพิ่มประสิทธิภาพบริหารงานของกองทุน กบข.