บมจ. อีสโคสท์ เฟอร์นิเทค อนุมัติจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 7.90 ล้านบาท ให้แก่บุคคลในวงจำกัด 3 ราย คาดได้รับเงินเฉียด 50 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และขยายธุรกิจ
นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์ เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรือ ECF เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทครั้งที่ 5/2561 เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2561 มีมติอนุมัติการออกและจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ครั้งที่ 3 ด้วยการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 7.90 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 3 ราย ได้แก่ นางสาวศุภลักษณ์ เศษธะพานิช 3.95 ล้านหุ้น นายเอกชัย ตรีสุริยาแสงโชติ 2.37 ล้านหุ้น และนายชาญชัย อิสรานนทกร 1.58 ล้านหุ้น โดยเป็นนักลงทุนประเภทบุคคลธรรมดาที่มีฐานะทางการเงินมั่นคง และมีศักยภาพในการลงทุนได้จริง รวมทั้งมีความรู้ความสามารถประสบการณ์ หรือศักยภาพในการที่เป็นประโยชน์หรือส่งเสริมการดำเนินงานของบริษัทฯ
กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 90% ของราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้น ECF ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ย้อนหลัง 7 วันทำการติดต่อกัน และก่อนวันกำหนดราคาเสนอขายต่อนักลงทุน โดยมูลค่าการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ ได้รับเงินทุน จำนวน 49.14 บาท
สำหรับวัตถุประสงค์การเสนอขายหุ้นให้แก่บุคคลในวงจำกัดครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนกิจการ เพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้แก่บริษัทฯ และเพื่อเป็นเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจหลัก หรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักของบริษัทฯ รวมทั้งการลงทุนในธุรกิจพลังงานต่าง ๆ
ทั้งนี้ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินทุนตามแผนธุรกิจของบริษัทฯ โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน ดังนี้เงินทุนสำหรับการขยายกำลังการผลิตในธุรกิจผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ จำนวน 250 ล้านบาท เงินทุนสำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศพม่า ที่บริษัทฯ เข้าลงทุนโดยการถือหุ้น 20% ในบริษัทพลังงานเพื่อโลกสีเขียว (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินในช่วงปี 2561 จำนวน 166 ล้านบาท และเป็นเงินทุนสำหรับการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ ผ่านบริษัทร่วมทุน (บริษัท เซฟ เอนเนอร์จี โฮลดิ้งส์ จำกัด (SAFE) ซึ่งบริษัทย่อยของบริษัทฯ (บริษัท อีซีเอฟ พาวเวอร์ จำกัด) ถือหุ้นใน SAFE คิดเป็นสัดส่วน 33.37% โดยมีความจำเป็นต้องใช้แหล่งเงินทุน จำนวนประมาณ 15 ล้านบาท
