ไร้คำชี้แจง “สุรินทร์” กรณีคืนทรัพย์ “กงสีปุ้มปุ้ย” ให้พี่น้อง

“สุรินทร์” ไม่พร้อมให้คำชี้แจง กรณีศาลแพ่งธนบุรี ตัดสิน ให้คืนสินทรัพย์กงสีปุ้มปุ้ย “หุ้น 21 บริษัท-ที่ดิน 31 แปลง”

รายงานข่าวแจ้งว่า ในงานพิธีเปิดอาคารสุรินทร์ ถ.เชียงใหม่ เขตคลองสาน ซึ่งจะใช้เป็นสำนักงานของ บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) หรือ “ปุ้มปุ้ย” เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารที่ทำการ โดยในงานดังกล่าวมีบรรดาสื่อมวลชนไปรอทำข่าวในบริเวณดังกล่าวจำนวนหนึ่ง

สื่อมวลชนได้ขออนุญาตเข้าไปในงาน และเพื่อรอสอบถามนายวิษณุ ในประเด็นการเมือง และบางส่วนก็จะขอเข้าไปเพื่อสอบถามความคืบหน้าในคดีที่ศาลแพ่งธุนบุรี ตัดสินให้นายสุรินทร์ โตทับเที่ยง และพวกรวม 6 คน แบ่งสินทรัพย์ของครอบครัวโตทับเที่ยง ซึ่งประกอบด้วยหุ้นใน 21 บริษัท และที่ดินอีก 31 แปลง ให้แก่ 9 พี่น้องโตทับเที่ยง ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ของนายสุรินทร์ ออกมาชี้แจ้งว่า ไม่สามารถให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมงานได้ และในขณะเดียวกัน นายสุรินทร์ไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์ กรณีเรื่องคดีความดังกล่าวด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ อาคารดังกล่าวที่นายวิษณุ ไปเป็นประธานในการตัดริบบิ้นครั้งนี้ เป็นอาคารที่อยู่ในพื้นที่ของที่ดินในนามกรรมสิทธิ์ร่วมของนายสุธรรม โตทับเที่ยง และพี่น้องรวม 10 คน ถือครองคนละส่วน ซึ่งเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ต้องนำมาจัดสรรให้กับพี่น้องทั้ง 9 คนด้วย อย่างไรก็ตาม ตึกดังกล่าวที่นายวิษณุ มาทำการตัดริบบิ้นนั้น ชื่ออาคารสุรินทร์ ซึ่งเป็นชื่อของนายสุรินทร์ เป็นจำเลยที่ 1 ในคดีนี้

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2561 เวลา 9.00 น. ศาลแพ่งธนบุรี ได้นัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ พ.2264/2559 เนื่องจากเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 โจทก์ทั้ง 9 ซึ่งนำโดยนายสุธรรม โตทับเที่ยง และพี่น้องอีก 8 คน ประกอบด้วย นางจุรี โตทับเที่ยง, นางจุฬา หวังศิริเลศ, นางจุรัตน์ มะนะสุทธิ์, นายสลิล โตทับเที่ยง, นางสาวสุนีย์ โตทับเที่ยง, นางสาวศิริพร โตทับเที่ยง, นางบุษราคัม สินสุข รับมอบอำนาจจากนางสุภัทรา สินสุข (เสียชีวิตแล้ว) และนายไกรลาภ โตทับเที่ยง รับมอบอำนาจจากนายสวัสดิ์ โตทับเที่ยง (เสียชีวิตแล้ว) ได้ทำการยื่นฟ้องนายสุรินทร์ จำเลยที่ 1 และพวกรวม 6 คน โดยโจทก์ทั้ง 9 ได้ยื่นฟ้องขอคืนทรัพย์สินในกงสี หรือทรัพย์ของครอบครัว ที่ทำมาหากินร่วมกัน

โดยศาลแพ่งธนบุรี ได้พิพากษาตัดสินให้นายสุรินทร์ จำเลยที่ 1 และพวกรวม 6 คน ที่ถือแทนสินทรัพย์ของครอบครัว ประกอบด้วย หุ้นใน 21 บริษัท และที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่ถือแทนพี่น้องทั้ง 10 คน รวมจำเลยที่ 1 ด้วย นำคืนให้โจทก์ทั้ง 9 คน จำนวน 9 ส่วน และให้จำเลย 1 ส่วน