3 แบงก์รัฐผนึกกำลัง คิกออฟ “โครงการสร้างบ้านสร้างอาชีพ” เพิ่มช่องทางให้บริการลูกค้าเข้าถึงสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ
นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เป็นประธานลงนามระหว่างผู้บริหาร ธอส. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เพื่อความร่วมมือโครงการสร้างบ้านสร้างอาชีพ ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนและสินเชื่อที่อยู่อาศัยในระบบ ด้วยการนำลูกค้า ธอส. มีบ้านอาศัยอยู่แล้ว แต่ต้องการสร้างอาชีพ สามารถขอสินเชื่อจากเอสเอ็มอีแบงก์ โดยมี บสย. ค้ำประกันสินเชื่อ ส่วนลูกค้าเอสเอ็มอีแบงก์ และ บสย. เมื่อประกอบอาชีพ กิจการเติบโตมีอาชีพมั่นคง ต้องการสร้าง ขยาย หรือต่อเติมที่อยู่อาศัย รวมถึงต้องการเป็นผู้ประกอบการแฟลต/อพาร์ตเมนต์ หรือทำโครงการจัดสรร สามารถขอสินเชื่อกับ ธอส. ได้ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ นอกจากนี้ ยังร่วมกันส่งเสริมพัฒนาทักษะ เพิ่มพูนความรู้ สร้างโอกาส สร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ในท้องถิ่นให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน-28 ธันวาคม 2561
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวเพิ่มเติมว่า ธอส.พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั้งบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลที่เป็นลูกค้าของเอสเอ็มอีแบงก์ และ บสย. ซึ่งต้องการขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือขอสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการแฟลต/อพาร์ตเมนต์ หรือขอสินเชื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย (Pre Finance) สามารถเลือกใช้สินเชื่อของ ธอส. รองรับนโยบาย “คนไทยมีบ้าน” พร้อมเปิดให้ยื่นกู้และทำนิติกรรมภายในวันที่ 28 ธันวาคม 2561 หรือภายใต้กรอบวงเงินที่ธนาคารกำหนด เช่น โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ วงเเงิน 20,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.00 ต่อปี คงที่นาน 4 ปีแรก ปีที่ 5 จนถึงตลอดอายุสัญญากู้ หากกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม และไถ่ถอนจำนองที่อยู่อาศัย สำหรับลูกค้ารายย่อยรายได้สุทธิไม่เกิน 25,000 บาท วงเงินกู้ต่อรายไม่เกิน 2 ล้านบาท
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ เอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวว่า ธนาคารพร้อมเปิดโอกาสให้ลูกค้า ธอส. ที่ต้องการสร้างอาชีพใช้บ้านอยู่อาศัยค้ำประกัน เพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อเศรษฐกิจติดดาว ดอกเบี้ยร้อยละ 3 โดยใช้ บสย. ค้ำประกันฟรี 4 ปีแรก เน้นกลุ่มท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง เกษตรแปรรูป ที่อาศัยอยู่ในชุมชนท่องเที่ยว สามารถขอสินเชื่อเถ้าแก่ 4.0 คิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง ร้อยละ 1 ปลอดชำระเงินต้น 3 ปีแรก เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยที่มีปัญหาทางการเงินสามารถกู้ และสินเชื่อสร้างอาชีพวัยเก๋า ซึ่งผ่อนปรนเกณฑ์ให้ผู้สูงอายุเข้าถึงแหล่งทุนได้มากขึ้นตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป จนถึง 75 ปี เป็นต้น
นางนิภารัตน์ พิสิฐพิทยเสรี รองผู้จัดการทั่วไป สายงานบริหารทั่วไป รักษาการแทนผู้จัดการทั่วไป บสย. กล่าวว่า เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นลูกค้าเอสเอ็มอีแบงก์ต้องการสินเชื่อบ้าน และลูกค้าสินเชื่อบ้านของ ธอส. สามารถเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อจาก 2 สถาบันการเงินดังกล่าว โดยยังมี บสย.เข้าไปช่วยเติมเต็มผู้ประกอบการที่ต้องการสินเชื่อธุรกิจ และขอสินเชื่อจากเอสเอ็มอีแบงก์ด้วย โดยขณะนี้ บสย. มีโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน (PGS 6) ปรับปรุงใหม่ วงเงินสนับสนุนอีกกว่า 30,000 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 4 ปี