บอร์ดพีพีพี เผยแผนร่วมทุนแบฟาร์ทแท็กในปี 61 จะอยู่ที่ 4.06 แสนล้านบาท จากแผนรวมทั้งสิ้น 9.66 แสนล้านบาท พร้อมเห็นชอบให้นำอีก 4 โครงการ มูลค่ารวม 2.2 หมื่นล้าน เข้าสู่รูปแบบการลงทุนแบพีพีพี
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) ซึ่งมีนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในที่ประชุมฯ ว่า ภายในปี 2561 จะมีโครงการเร่งรัดการร่วมทุนฯ หรือ PPP Fast Track ที่ผ่านการอนุมัติโครงการจากคณะกรรมการ PPP รวมทั้งสิ้น 4.06 แสนล้านบาท จากมูลค่ารวมตามแผนที่มีทั้งสิ้น 9.66 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ แผนการร่วมลงทุนแบบ PPP Fast Track ที่กำหนดใช้ระยะเวลาตั้งแต่เสนอโครงการจนถึง ครม. อนุมัติให้ลงทุน จะรวมประมาณ 9 เดือนนั้น นายเอกนิติ ระบุว่า ในปัจจุบันจะมีรวมทั้งสิ้น 12 โครงการ โดยคิดเป็นมูลค่า 9.66 แสนล้านบาท โดยในปีนี้จะทยอยนำโครงการให้คณะกรรมการ PPP พิจารณาอนุมัติได้ในปีนี้ 3 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 4.06 แสนล้านบาท
โครงการดังกล่าวจะประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตะวันตก และตะวันออก มูลค่า 1.95 แสนล้านบาท, โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-วงแหวนกาญจนาภิเษก มูลค่า 1.31 แสนล้านบาท และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายนครปฐม-ชะอำ มูลค่า 8.0 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังโครงการ PPP Fast Track ล่าสุด ที่คณะกรรมการ PPP เห็นชอบให้นำเข้าโครงการ Fast Track คือ โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีมูลค่าเบื้องต้น อยู่ที่ 3.26 หมื่นล้านบาท
ผู้อำนวยการ สคร. ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการ PPP ยังได้ให้ความเห็นชอบให้นำ 4 โครงการลงทุนของรัฐ รวมมูลค่าราว 2.2 หมื่นล้านบาท ให้เข้าสู่รูแบบการลงทุนแบบ PPP ด้วย โดยโครงการทั้ง 4 นั้น จะประกอบไปด้วย โครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีกลางบางซื่อ แปลง A ของ รฟท. เนื้อที่ 32 ไร่ โดยเอกชนจะเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมดในรูปแบบสร้าง-บริหาร-โอน (BOT) ระยะเวลาดำเนินธุรกิจ 30 ปี และระยะเวลาก่อสร้างไม่เกิน 4 ปี มีมูลค่าลงทุน 1.54 หมื่นล้านบาท ซึ่งการพัฒนาที่ดินแปลงนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาพื้นที่ศูนย์คมนาคมขนส่งพหลโยธิน โดยการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ที่ไม่ใช่รายได้หลักของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการเงินของ รฟท.
ส่วนอีก 3 โครงการที่ได้รับอนุมัติให้ลงทุนแบบ PPP นั้น จะเป็นโครงการลงทุนขนาดกลาง มูลค่าตั้งแต่ 1 พันล้านบาทจนถึง 5 พันล้านบาท ประกอบด้วย โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของจังหวัดเชียงราย มูลค่า 2.7 พันล้านบาท, โครงการพัฒนาที่ดินคลังพัสดุคลองเตย ของ TOT มูลค่า 3.14 พันล้านบาท และโครงการจัดให้เช่าที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชบ. 350 หรือบริเวณสนามกอล์ฟบางพระ ของกรมธนารักษ์ มูลค่า 1.53 พันล้านบาท