ก.ล.ต. เพิกถอนการให้ความเห็นชอบผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุน นายพิสิษฐ์ ผ่องเผือก ขณะกระทำผิดสังกัดบริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) เป็นเวลา 10 ปี กรณีหลอกลวงลูกค้าหลายราย จัดทำเอกสารเป็นเท็จ นำเงินของลูกค้าไปใช้ประโยชน์ และใช้บัญชีหลักทรัพย์ของลูกค้าซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง
ก.ล.ต. ได้รับรายงานผลการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนของลูกค้าบริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จึงตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า นายพิสิษฐ์ชักชวนให้ลูกค้ารายหนึ่งซื้อขายหลักทรัพย์ โดยระบุว่าจะได้ผลตอบแทนร้อยละ 8 ภายใน 6 เดือน และเมื่อลูกค้าหลงเชื่อและโอนเงินมาให้ นายพิสิษฐ์ได้บันทึกข้อมูลในเอกสารของบริษัท โดยระบุว่าเป็นเงินที่โอนมาจากพี่สาวของตน เพื่อนำเข้าบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของพี่สาว ซึ่งนายพิสิษฐ์ได้เปิดไว้เพื่อตนเอง จากนั้น ได้นำเงินไปใช้ซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อประโยชน์ของตนเอง
นอกจากนี้ นายพิสิษฐ์ยังแนะนำให้ลูกค้ารายอื่นซื้อหุ้น โดยอ้างว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งที่เป็นหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่แล้ว โดยให้ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีของตนเอง แต่ไม่ได้ซื้อหุ้นให้ลูกค้า และยังพบว่านายพิสิษฐ์ได้ใช้บัญชีของลูกค้าอื่นอีก 2 ราย ซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง เนื่องจากบัญชีที่ใช้ชื่อพี่สาววงเงินเต็มอีกด้วย ซึ่งการกระทำทั้งหมดก่อให้เกิดความเสียหายแก่ลูกค้าหลายรายเป็นจำนวนมาก
การกระทำของนายพิสิษฐ์ข้างต้น เป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ข้อ 23(1) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทลธ. 8/2557 เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ลงวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557 และเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนกลุ่มที่ 3 ตามข้อ 31(1) แห่งประกาศ ที่ ทลธ. 8/2557
ก.ล.ต. จึงเพิกถอนการให้ความเห็นชอบการเป็นผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุนและกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนรายนายพิสิษฐ์ เป็นเวลา 10 ปี มีผลตั้งแต่ วันที่ 21 ตุลาคม 2560
ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ ลงโทษนายพิสิษฐ์ให้พ้นสภาพจากการเป็นพนักงาน โดยมีผลไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2559
อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต. ขอเตือนว่า ผู้ลงทุนควรหมั่นตรวจสอบเอกสารการโอนเงินและการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นประจำ โดยในกรณีที่มีข้อสงสัยในความถูกต้องของเอกสาร ผู้ลงทุนควรสอบถามไปยังฝ่ายปฏิบัติการของบริษัทหลักทรัพย์นั้น ๆ และในการโอนเงินเพื่อทำธุรกรรม ผู้ลงทุนจะต้องโอนเงินเข้าบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ต้นสังกัดเท่านั้น และต้องไม่รับฝากหุ้นของผู้แนะนำการลงทุนไว้ในบัญชีซื้อขายของตน เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง และเกิดความเสียหายในที่สุด