ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ออกหมายจับ "นายพิสิษฐ์" ทนายแสบพร้อมพวกรวม 3 คน ร่วมปลอมเอกสารโกงเงิน "น้องบีม" กว่า 5 ล้านบาท ด้าน "พล.ต.ท.ศานิตย์" สั่งฝ่ายสืบเร่งล่าตัวมาดำเนินคดี เชื่อยังกบดานอยู่ในประเทศไทย เบื้องต้นได้เบาะแสแล้ว
จากกรณีที่นางสาวพรทิพย์ จันทรัตน์ แม่ของ ด.ญ.ภัทรดา แก้วผ่อง หรือน้องบีม เด็กหญิงพิการ ผู้เสียหายจากอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับรถพ่วง 18 ล้อ ในพื้นที่ อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2548 เป็นเหตุให้พ่อน้องบีมเสียชีวิต นางสาวพรทิพย์ จันทรัตน์ แม่ บาดเจ็บสาหัส ส่วนน้องบีมต้องถูกตัดขากลายเป็นคนพิการตั้งแต่อายุ 2 ขวบ ซึ่งบริษัทเจ้าของรถพ่วงคู่กรณีได้ชดใช้ค่าเสียหายให้ 5 ล้านบาท แต่ถูกนายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ ทนายความที่รับว่าความฉ้อโกงเงินนั้น
วานนี้ (12 ก.ค.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยว่า ศาลจังหวัดตลิ่งชันได้อนุมัติหายจับผู้ต้องหารวม 3 ราย เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2560 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย 1. นายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ 2. น.ส.พรปวีณ์ ชูแก้ว 3. น.ส.ธิตาภา สวัสดี หรือภัทรวดี โดยนายพิสิษฐ์ และ .ส.พรปวีณ์ มีความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม ร่วมกันฉ้อโกงและยักยอกโดยในฐานะเป็นผู้จัดการทรัพย์สิน กระทำผิดหน้าที่โดยทุจริต เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินผู้อื่น โดยได้กระทำในฐานเป็นผู้มีอาชีพอันเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน
ส่วนน.ส.ธิตาภา มีความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงและสนับสนุนยักยอก โดยกระทำในฐานะผู้จัดการเป็นที่ไว้วางใจ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามผู้ต้องหามาดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ได้มีคำสั่งให้ฝ่ายสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เร่งติดตามตัวนายพิสิษฐ์ และน.ส.ฐิตาภา ผู้ต้องหาทั้งสองมาดำเนินคดีโดยเร็ว เชื่อว่ายังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย ซึ่งตำรวจมีเบาะแสของผู้ต้องหาบ้างแล้ว แต่อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง ส่วนน.ส.พรปวีณ์ ตำรวจได้อายัดตัวที่เรือนจำจังหวัดชุมพร เนื่องจากนางพรปวีณ์ ถูกคุมขังในคดียาเสพติด ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา
จากกรณีที่นางสาวพรทิพย์ จันทรัตน์ แม่ของ ด.ญ.ภัทรดา แก้วผ่อง หรือน้องบีม เด็กหญิงพิการ ผู้เสียหายจากอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับรถพ่วง 18 ล้อ ในพื้นที่ อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2548 เป็นเหตุให้พ่อน้องบีมเสียชีวิต นางสาวพรทิพย์ จันทรัตน์ แม่ บาดเจ็บสาหัส ส่วนน้องบีมต้องถูกตัดขากลายเป็นคนพิการตั้งแต่อายุ 2 ขวบ ซึ่งบริษัทเจ้าของรถพ่วงคู่กรณีได้ชดใช้ค่าเสียหายให้ 5 ล้านบาท แต่ถูกนายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ ทนายความที่รับว่าความฉ้อโกงเงินนั้น
วานนี้ (12 ก.ค.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยว่า ศาลจังหวัดตลิ่งชันได้อนุมัติหายจับผู้ต้องหารวม 3 ราย เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2560 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย 1. นายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ 2. น.ส.พรปวีณ์ ชูแก้ว 3. น.ส.ธิตาภา สวัสดี หรือภัทรวดี โดยนายพิสิษฐ์ และ .ส.พรปวีณ์ มีความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม ร่วมกันฉ้อโกงและยักยอกโดยในฐานะเป็นผู้จัดการทรัพย์สิน กระทำผิดหน้าที่โดยทุจริต เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินผู้อื่น โดยได้กระทำในฐานเป็นผู้มีอาชีพอันเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน
ส่วนน.ส.ธิตาภา มีความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงและสนับสนุนยักยอก โดยกระทำในฐานะผู้จัดการเป็นที่ไว้วางใจ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามผู้ต้องหามาดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ได้มีคำสั่งให้ฝ่ายสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เร่งติดตามตัวนายพิสิษฐ์ และน.ส.ฐิตาภา ผู้ต้องหาทั้งสองมาดำเนินคดีโดยเร็ว เชื่อว่ายังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย ซึ่งตำรวจมีเบาะแสของผู้ต้องหาบ้างแล้ว แต่อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง ส่วนน.ส.พรปวีณ์ ตำรวจได้อายัดตัวที่เรือนจำจังหวัดชุมพร เนื่องจากนางพรปวีณ์ ถูกคุมขังในคดียาเสพติด ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา