ออลล์ อินสไปร์ฯ ดึงทุนญี่ปุ่น Hoosiers Holdings ร่วมลงทุนพัฒนาคอนโดฯ 3 โครงการ มูลค่า 6,000 ล้านบาท ประเดิมโครงการแรก ดิเอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ เล็งดึงโนฮาวน์ Hoosiers เพิ่มประสิทธิภาพ ชี้ร่วมทุนญี่ปุ่นช่วยสร้างความเชื่อมั่นลูกค้า-นักลงทุน
นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ เสริมความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจด้วยการเปิดตัวพันธมิตรทางธุรกิจร่วมทุนกับกลุ่มฮูซิเออรส์ โฮลดิ้ง Hoosiers Holdings ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์จากประเทศ ญี่ปุ่น สำหรับข้อตกลงภายใต้ความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นทั้ง 2 บริษัท จะสนับสนุนการทำงานร่วมกัน เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท ออลล์ อินสไปร์ นำร่อง 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 6,000 ล้านบาท โดยทุกโครงการที่ร่วมทุนจะตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาพัฒนาสัดส่วนการถือหุ้น 51:49
โครงการแรกที่ร่วมทุนได้แก่โครงการ ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 50 มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โดยให้สิทธิบริษัท ออลล์ อินสไปร์ ในการบริหารงานและวางแผนกลยุทธ์ทั้งหมด ส่วนฮูซิเออรส์ จะลงทุนเบื้องต้น 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 150 ล้านบาท คิดเป็น 49% ของเงินลงทุน และอีก 51% เป็นเงินทุนของออลอินสไปร์ และส่วนที่เหลือได้รับการสนับสนุนทางด้านการเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ
“ทางฮูซิเออรส์ฯ ต้องการพัฒนาโครงการที่มีขนาดใหญ่กว่านี้ มูลค่าประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาทขึ้นไป ประมาณ 2-3 โครงการต่อปี แต่ที่ผ่านมา บริษัทพัฒนาโครงการที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก และต้องการทดสอบการร่วมทุนจากโครงการแรกก่อนว่ามีปัญหาหรืออุปสรรค์ใดบ้าง หากประสบความสำเร็จ ก็จะเดินหน้าการลงทุนต่อไป” นายธนากร กล่าว
สำหรับโครงการ ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 50 เป็นคอนโดมิเนียม จำนวน 772 ยูนิต ขนาดเริ่มต้นที่ 25-48 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 1.4-1.9 ล้านบาท หรือ 65,000 บาทต่อตารางเมตร บริษัทได้นำ 300 ยูนิตแรกเปิดขายในสัปดาห์ที่ผ่านมา สามารถปิดการขายได้ในเวลารวดเร็ว โดยยูนิตที่เหลือบางส่วนฮูซิเออรส์ จะนำไปโรดโชว์ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และอีกส่วนจะนำมาเปิดการขายใหม่อีกครั้งในต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะปรับราคาขายขึ้นอีก 5%
นายธนากร กล่าวต่อว่า ในปี 2561 บริษัทฯ จะแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีกอย่างน้อย 10 โครงการ มูลค่าโครงการมากกว่าปี 2560 ประมาณ 10% ซึ่งในจำนวนดังกล่าวจะมีโครงการการร่วมทุนด้วย อาทิ พัฒนาบ้านผู้สูงอายุในรูปแบบมิกซ์ยูส ประกอบไปด้วยโครงการแนวสูง แนวราบ โรงเรียนนานาชาติ และส่วนของรีเทล โดยมอง 2 พื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนา คือ จ. ชลบุรี พื้นที่ 500 ไร่ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน คาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ในเร็ว ๆ นี้ และอีกทำเลคือที่ จ. ภูเก็ต ขณะนี้อยู่ในระหว่างการมองหาที่ดินแปลงใหม่ ซึ่งจะต้องมีพื้นที่ตั้งแต่ 15 ไร่ขึ้นไป การร่วมทุนในโครงการผู้สูงอายุ บริษัทจะได้ทั้งโนวน์-ฮาว ในการพัฒนาบ้านผู้สูงอายุ และกลุ่มลูกค้าจากญี่ปุ่นอีกด้วย
ด้านนายสึโตมุ อิคุมะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ฮูซิเออรส์ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2559 ที่ผ่านมา ได้เปิดบริษัทสาขาที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อลงทุนในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งที่ผ่านมา ได้เข้าไปลงทุนซื้อหุ้นในบริษัทที่พัฒนาโครงการคอนโดฯ ในประเทศเวียดนาม สัดส่วน 49% และลงทุนซื้อหุ้นบริษัทที่พัฒนาทาวน์เฮาส์ในประเทศกัมพูชา สัดส่วน 20% และประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ 3 ที่เข้ามาลงทุนในภูมิภาคนี้
“ที่ผ่านมา เรามองหาพันธมิตรที่เป็นผู้ประกอบการไทยมาโดยตลอด แต่ไม่สามารถหาได้ จนกระทั่งธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้แนะนำออลล์ อินสไปร์ฯ ให้ และได้พบปะเจรจาธุรกิจกันแล้ว พบว่าเป็นบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดภายในระยะเวลา 4 ปีสามารถเสนอเงื่อนไขที่ดีได้ จึงทำให้อยากร่วมงานด้วย และอยากร่วมพัฒนาโครงการกันอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าปัจจุบัน ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในประเทศไทยยังไม่ค่อยดีเท่าที่ควร แต่ออลล์ อินสไปร์ สามารถทำยอดขายได้สวนกระแส ทุกโครงการสามารถทำยอดขายได้ดี” นายอิคุมะ กล่าว