โบรกเกอร์จับตาคำตัดสินคดีจำนำข้าวศุกร์นี้ (25 ส.ค.) กดดันหุ้นไทยเคลื่อนไหว 1,550-1,580 จุด หากคำตัดสินคดีจำนำข้าวออกมาไม่เป็นไปตามที่นักลงทุนคาดดัชนีจะมีแรงกดดันให้ปรับลดลง แต่คาดว่าไม่หลุดระดับ 1,520 จุด
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KTBST กล่าวว่า นักลงทุนจับตาสถานการณ์วันที่ 25 สิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำตัดสินคดีจำนำข้าวที่มี น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้อยู่ในช่วงแคบ ๆ กรอบการเคลื่อนไหว 1,550-1,580 จุด ซึ่งหากคำตัดสินคดีจำนำข้าวออกมาไม่เป็นไปตามที่นักลงทุนคาดดัชนีจะมีแรงกดดันให้ปรับลดลง แต่คาดว่าไม่หลุดระดับ 1,520 จุด
อย่างไรก็ตาม หากคำตัดสินออกมาเชิงสมานฉันท์ คาดว่า ดัชนีจะปรับขึ้น แต่อยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากขาดปัจจัยสนับสนุน เพราะกำไรของบริษัทจดทะเบียนปีนี้เติบโตลดลง จากเดิมคาดว่าเติบโตร้อยละ 8-10 ได้ปรับลงเหลือโตร้อยละ 4-8 เนื่องจากผลประกอบการของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ หรือนอนแบงก์ และรับเหมาก่อสร้างออกมาน่ากังวลมีเพียงกลุ่มท่องเที่ยว และพลังงานที่ปรับตัวดีขึ้น แต่ราคาน้ำมันที่ทรงตัวประมาณ 45-50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อาจกระทบต่อกำไรของกลุ่มพลังงานครึ่งปีหลังได้ ส่งผลให้ทาง KTBST ปรับลดเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปีนี้เหลือ 1,610 จุด จากเดิมคาดว่าดัชนีสิ้นปีอยู่ที่ 1,640 จุด
ส่วนกลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ให้พิจารณาเลือกหุ้นที่มีแนวโน้มฟื้นตัวกลับมา เช่น กลุ่มขนส่ง เดินเรือ หุ้นที่ราคาปรับลดลงมากก่อนหน้านี้ แต่มีแนวโน้มโอกาสปรับขึ้น เช่น ถ่านหิน และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มที่จ่ายเงินปันผลสูงและสม่ำเสมอ เช่น กลุ่มสื่อสาร
นายวิน กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังจะเน้นออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินและเพิ่มช่องทางการลงทุนในต่างประเทศ เน้นการตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0 เพื่อให้บริษัทมีส่วนแบงการตลาดอยู่ที่ร้อยละ 1.5-1.7 รวมทั้งมีส่วนแบ่งการตลาดใน TFEX อยู่ในอันดับ 1 ใน 3 และตั้งเป้าหมายมีสินทรัพย์ภายใต้การแนะนำแก่ลูกค้า 70,000 ล้านบาทในสิ้นปีนี้
