กสิกรไทย ปรับประมาณการเงินบาทไตรมาส 3 แข็งค่าขึ้นที่ 33.00 เหตุดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า-ตลาดตราสารยังดึงดูดเงินไหลเข้า ชี้ ธปท. ส่งเสริมเงินไหลออก พร้อมบริหารค่าเงินเชิงรุก
นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับประมาณการเงินบาท ณ ไตรมาส 3 ปีนี้มาอยู่ที่ 33.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ จาก 34.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลมากกว่าที่คาด และอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำส่งผลให้มีเงินไหลเข้าตลาดตราสารหนี้อยู่ ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยทางการเมือง และเศรษฐกิจ เป็นสาเหตุหลักประมาณ 86% ที่ทำให้เงินบาทแข็งค่า แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าในไตรมาส 4 ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงหลังจากคาดการณ์ว่า สหรัฐอเมริกาจะเริ่มลดขนาดมาตรการ QE พร้อมกันนั้น ได้ปรับประมาณการเงินบาท ณ สิ้นปีที่ 33.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ จากเดิมที่ 34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
“เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงต้องจับตามองในหลาย ๆ เรื่องทั้งการปฏิรูปภาษี นโยบายการคลัง ที่ยังไม่แน่นอน ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดมีโอกาสจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 เพียง 35% และปรับลดประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตเหลือ 2.1% จาก 2.4% ขณะที่ส่วนของอียู และญี่ปุ่น มีแนวโน้มดีขึ้น”
สำหรับกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีความเป็นห่วงในเรื่องของเงินทุนไหลเข้านั้น มองว่าเป็นการเตือนส่วนของการเก็งกำไรที่เริ่มมีมากขึ้น แต่ไม่น่าจะใช้มาตรการรุนแรงที่อาจจะกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน และไม่ส่งผลดีในระยะยาว แต่ควรใช้มาตรการส่งเสริมการไหลออกของเงินมากกว่าการกักกันเงินไหลเข้า
“เรามองว่าควรมีแนวทางการบริหารค่าเงินในเชิงรุกมากขึ้น เพราะถ้าเราตั้งรับอย่างเดียว เมื่อกันชนเราบางลง นักเก็งกำไรก็จะมีความมั่นใจที่จะรุกมากขึ้น”