กสิกรไทยคาดสินเชื่อเอสเอ็มอีครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง จากภาพรวมเศรษฐกิจที่ดีขึ้น มั่นใจทั้งปีโตได้ตามเป้า 4-6% ชูกลุ่มก่อสร้าง ท่องเที่ยว ลอจิสติกส์เด่น อีคอมเมอร์สมาแรง ด้านเอ็นพีแอลรักษาระดับที่ 5.3%เท่าครึ่งปีแรก
นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยว่า สินเชื่อเอสเอ็มอีของธนาคารในช่วงครึ่งปีแรกมียอดคงค้างอยู่ที่ 679,000 ล้านบาท เติบโต 3% จากสิ้นปี 59 และจากเป้าหมายทั้งปีที่คาดว่าจะโต 4-6% หรือมียอดคงค้างที่ 696,000 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมครึ่งปีแรกอยู่ที่ 21,500 ล้านบาท เติบโต 2-3% จากเป้าหมายทั้งปีที่ 41,300 ล้านบาท โดยมีอุตสาหกรรมที่โดดเด่น ได้แก่ รับเหมาก่อสร้างและค้าวัสดุก่อสร้าง ท่องเที่ยวและสุขภาพ ลอจิสติกส์ และอีคอมเมิร์ส
สำหรับช่วงครึ่งหลังของปี 2560 ในส่วนของธุรกิจเอสเอ็มอีธนาคารได้วางกลยุทธ์สนับสนุนลูกค้าใน 4 ด้าน คือการสนับสนุนทางการเงินโดยมุ่งเน้นการดูแลในทุกห่วงโซ่ธุรกิจ (Value Chain) โดยเฉพาะ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ การบริโภคและบริการ อุตสาหกรรมหนักและการส่งออก และโครงสร้างพื้นฐาน พลังงานและการขนส่ง ทั้งนี้ ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างของ Value Chain ที่ 61,300 ล้านบาท จากลูกค้าที่เป็นเครือข่ายธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดกลางกว่า 1,500 กลุ่ม รวมทั้งยังปล่อยกู้ให้เอสเอ็มอีภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SME ทวีทุนของ บสย. ซึ่งหลังจากเปิดโครงการเพียง 1 สัปดาห์ ได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่สนใจขอสินเชื่อมาแล้วถึง 1,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังเน้นการดูแลด้านเครือข่ายเอสเอ็มอีในการแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ สร้างสัมพันธ์ และเกิดการซื้อขายระหว่างนักธุรกิจทุกภูมิภาค โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 1,500 ล้านบาท รวมถึงด้านดิจิตอลแบงกิ้ง และด้านองค์ความรู้
นายสุรัตน์ กล่าวอีกว่า ในครึ่งปีหลังนี้ธุรกิจที่น่าจับตามอง คือ ธุรกิจส่งออกที่ขยายตัวตามเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ธุรกิจก่อสร้างที่ได้รับอานิสงส์จากการใช้จ่ายภาครัฐ และธุรกิจท่องเที่ยวที่ยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง
ด้านหนี้ที่ไม่ก่อใก้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เอสเอ็มอีในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 5.3% จากสิ้นปี 59 ที่อยู่ในระดับ 4.9% ซึ่งมองว่าในช่วงครึ่งปีหลังมีสัญญาณที่ดีขึ้นจากเอสเอ็มอีรายใหญ่ (ยอดขายสูงกว่า 50 ล้านบาท) ที่เริ่มนิ่ง แสดงให้เห็นว่าได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ขณะที่เอสเอ็มอีรายเล็กยังคงเพิ่มขึ้น แต่ในอัตราที่ชะลอลงจากรายใหม่ที่เข้ามามียอดผิดนัดชำระหนี้น้อยลง และลูกหนี้ที่ปรับโครงสร้างหนี้ไปแล้วกลับเข้ามาลดลงเช่นกัน จึงน่าจะดูแลเอ็นพีแอลให้อยู่ในระดับใกล้เคียงปัจจุบันได้ในสิ้นปีนี้
นายสุรัตน์ กล่าวอีกว่า เรามองเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีขึ้นจากการส่งออก และการท่องเที่ยวที่ดีเกินคาด โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่จะเห็นว่า ปริมาณนักท่องเที่ยวในฝั่งสหรัฐฯ กับยุโรป ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายสินค้า-บริการสูง เริ่มกลับเข้ามา โดยในครึ่งปีแรกที่กลุ่มนี้เติบโต 7.6% ขณะที่ปัจจัยที่ต้องจับตาเป็นกรณีการเมืองโลกที่หากเกิดความรุนแรงหรือสงครามขึ้น ก็จะกระทบการค้าโลก และหนี้ครัวเรือนที่ยังกดดันการบริโภคสินค้าคงทนอยู่
“โดยรวมแล้วเรามองภาพเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง มั่นใจว่า การปล่อยสินเชื่อทั้งปีสามารถปล่อยกู้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และยังคงตั้งเป้าเป็นผู้นำอันดับ 1 ครองส่วนแบ่งตลาดสินเชื่อเอสเอ็มอี 28%”