xs
xsm
sm
md
lg

ผาแดงฯ กำไรโต 300%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผาแดงอินดัสทรี โชว์กำไรช่วงครึ่งปีแรก 523 ล้านบาท โต 300% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังราคาโลหะสังกะสีโลกทะยานต่อเนื่อง “ฟรานซิส แวนเบลเลน” มั่นใจทั้งปี 60 ราคาสังกะสี ทรงตัวระดับสูง หนุนกำไรทั้งปีโดดเด่น

นายฟรานซิส แวนเบลเลน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (PDI) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 ว่า บริษัทฯ รายได้จากการขายสินค้าและบริการ 2,888 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ 2,510 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิในครึ่งแรกของปีนี้สูงเป็นประวัติการณ์ 523 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 392 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 131 ล้านบาท หรือโต 300%

ผลประกอบการที่ดีมากนี้เป็นผลมาจากราคาโลหะสังกะสีโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น และค่าพรีเมียมจากการขายตลาดในประเทศที่สูงขึ้น โดยราคาเฉลี่ยในครึ่งแรกของปี 2560 อยู่ที่ 2,690 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีราคาเฉลี่ยที่ 1,796 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ประกอบกับบริษัทฯ ได้มีการรับรู้รายได้จำนวน 59 ล้านบาท จากการจำหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดในบริษัท แม่สอดพลังงานสะอาด จำกัด และรับรู้รายได้อีก จำนวน 50 ล้านบาท จากการขายเงินลงทุนในบริษัท ผาแดงอินดัสทรี (ประเทศลาว) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาสที่สองของปีนี้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ จำนวน 211 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสเดียวกับของปีที่แล้ว ซึ่งมีกำไรสุทธิ 101 ล้านบาท ทั้งนี้ ในปี 2559 ที่ผ่านมา พีดีไอ มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทฯ มีรายได้รวม 5,341 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 478 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกำไรที่สูงสุดในรอบ 5 ปี

จากผลการดำเนินงานที่ดีในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ประกอบกับราคาโลหะสังกะสีโลก และค่าพรีเมียมจากการขายตลาดในประเทศ ที่ยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผลการดำเนินงานที่ดีของโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม ทำให้แนวโน้มผลการดำเนินงานของพีดีไอ ในปี 2560 ยังคงมีความโดดเด่น

พีดีไอ ยังคงมุ่งมั่นดำเนินการตามแผนกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และมีความก้าวหน้าไปอย่างมาก โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการพลังงานทดแทน โดยโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งที่สองของพีดีไอ ในประเทศญี่ปุ่น จำนวน 10.57 เมกะวัตต์ มีความคืบหน้าเป็นไปด้วยดี และคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ภายในไตรมาสสามของปี 2560 ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 6.5 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดตาก ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท พีดีไอ แม่ระมาด จำกัด มีผลการดำเนินงานสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยพีดีไอยังคงสนใจ และหาโอกาสลงทุนในโครงการพลังงานทดแทนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง
กำลังโหลดความคิดเห็น