xs
xsm
sm
md
lg

JLLชี้ปี 60 การลงทุนอสังหาฯทั่วโลกมีแนวโน้มขยายตัวคาดแตะ 24.5 ล้านล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เจแอลแอลเผยรายงานการลงทุนซื้อ-ขายอสังหาฯเชิงธุรกิจ สนง. ศูนย์การค้า โรงแรม โรงงาน โกดังสินค้าทั่วโลกปี 59 มูลค่า 22.7 ล้านล้านบาท คาดปี 60 แนวโน้มเพิ่มขึ้นถึง 24.5 ลานล้านบาท

บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เจแอลแอล เปิดเผยรายงานวิจัยการลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ เชิงพาณิชย์ อาทิ อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงแรม โรงงานและโกดังสินค้า ในรายงานระบุว่า แม้ในหลายประเทศทั่วโลกจะประสบปัญหาความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมืองที่ท้าทาย ตลาดการลงทุนซื้อขายอาคารและโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีประโยชน์การใช้ในเชิงธุรกิจทั่วโลก ยังคงมีกิจกรรมเกิดขึ้นอย่างคึกคักและมีแนวโน้มฟื้นตัวในปี 2560 นี้

ในปี 2559 ที่ผ่านมา ทั่วโลกมีการลงทุนซื้อขายอาคารและโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีประโยชน์การใช้ในเชิงธุรกิจ (อาทิ อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงแรม โรงงาน และโกดังสินค้า) รวมมูลค่าทั้งสิ้น 6.5 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 22.7 ล้านล้านบาท แต่สำหรับปี 2560 นี้ มีแนวโน้มว่าจะมีปริมาณการลงทุนเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่ามูลค่ารวมสำหรับทั้งปีอาจขยับขึ้นไปได้มากถึง 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 24.5 ล้านล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2557 และ 2558

หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เชื่อว่าตลาดการลงทุนซื้อขายในปีนี้จะปรับตัวดีขึ้น คือการที่กลุ่มนักลงทุนประเภทสถาบันมีการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีประโยชน์การใช้ในเชิงธุรกิจมากขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเหล่านี้เน้นการหาโอกาสการลงทุนที่มีผลตอบแทนการลงทุนที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแหล่งทุนใหม่ๆ เกิดขึ้นจากหลากหลายประเทศ อาทิ จีน ไต้หวัน และมาเลเซีย

นักลงทุนต่างๆ เหล่านี้ ทั้งที่มีอยู่เดิมและที่เข้ามาใหม่ มีจำนวนมากที่มีทุนหนาและสามารถระดมทุนเพื่อเข้าซื้ออาคารหรือโครงการอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างรวดเร็ว

ปรากฏการณ์หนึ่งที่น่าสนใจคือ การที่จีนขยายบทบาทขึ้นมาเป็นกลุ่มทุนรายใหญ่บนเวทีโลกด้านการลงทุนซื้ออาคาร-โครงการอสังหาริมทรัพย์ โดย ณ สิ้นไตรมาสสามของปีที่ผ่านมา กลุ่มทุนจากจีนมีการเข้าลงทุนซื้ออาคารและโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีประโยชน์การใช้ในเชิงธุรกิจในต่างประเทศมากที่สุด แซงหน้าสหรัฐฯ

ทั้งนี้เมืองที่เป็นเป้าหมายของนักลงทุนที่สนใจลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นเมืองในประเทศที่มีเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว ซึ่งการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์มีความเสี่ยงต่ำ มีความโปร่งใส และซื้อขายได้คล่อง แต่เมืองหลักๆ เหล่านี้ มักมีการแข่งขันสูง จึงมีนักลงทุนบางส่วนที่ให้ความสนใจการลงทุนในเมืองเป้าหมายรองในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ดังนั้น ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่มีความโปร่งใสในตลาดอสังหาริมทรัพย์สูงกว่าประเทศอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกัน จะมีโอกาสในการดึงดูดนักลงทุนได้ดีกว่า


กำลังโหลดความคิดเห็น