อานิสงส์จากทางภาครัฐที่ได้ขับเคลื่อน “แผนงานพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี” เตรียมปั้นภาคตะวันออกไทยให้กลายเป็นฮับของธุรกิจ และการท่องเที่ยว ด้วยการอนุมัติงบประมาณกว่า 700,000 ล้านบาท เพื่อการขยายสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา พร้อมทั้งแผนพัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินทั้ง สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินอู่ตะเภา นอกจากนั้น จะมีการพัฒนาระยะที่สามของท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรือมาบตาพุด ตลอดจนรถไฟทางคู่เชื่อมโยงสามท่าเรือ คือ ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมาบตาพุด และท่าเรือน้ำลึกสัตหีบ ซึ่งการพัฒนาดังกล่าวจะเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจและการท่องเที่ยวทางทะเลฝั่งตะวันออกของไทยครั้งสำคัญ
มิสเตอร์สก็อต ฟินสเตน, ฮาร์เบอร์ มาสเตอร์, โอเชี่ยน มารีน่า ยอช์ท คลับ ได้กล่าวถึงความสำคัญของการพัฒนาของภาคตะวันออกไทยในครั้งนี้ว่า “อ่าวไทยมีทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็นท้องทะเล และชายฝั่ง ที่สวยงาม จึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้รับการลงทุนพัฒนาครั้งใหญ่จากทางภาครัฐบาลให้กลายเป็นฮับของธุรกิจและการท่องเที่ยว ซึ่งไม่เฉพาะเพียงฝั่งจากภาครัฐเท่านั้น แต่เราก็จะได้เห็นการลงทุนจากภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับการนำไปสู่การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกของโอเชี่ยน มารีน่า ยอช์ท คลับ ในฐานะท่าจอดเรือที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมไปถึงการพัฒนาการจัดงานโอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ท โชว์ ซึ่งจะรองรับการเติบโตที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้”
โอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ท โชว์ นับเป็นงานแสดงเรือ และสินค้าไลฟ์สไตล์ กลางแจ้งขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และนับว่าเป็นอีกหนึ่งในงานแสดงเรือของเอเชียที่น่าจับตามองในบรรดางานแสดงเรือต่าง ๆ ทั่วโลก งานดังกล่าวเป็นศูนย์รวมของภาคธุรกิจการท่องเที่ยวทางทะเล คาดว่าจะมีบริษัทกว่า 150 แห่งมาร่วมจัดแสดงเรือ สินค้า และการบริการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะได้รับความสนใจจากภาคธุรกิจ และจำนวนผู้เข้าชม มากกว่าทุกปี
“โอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ท โชว์ จะจัดขึ้นเป็นปีที่ 6 ระหว่าง 23-26 พฤศจิกายน 2560 นี้ ณ โอเชี่ยน มารีน่า ยอช์ท คลับ โดยจุดประประสงค์หลักของการจัดงานนี้ขึ้นมาตั้งแต่ปีแรก คือ การเป็นงานจัดแสดงสินค้าเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตภาคธุรกิจการท่องเที่ยวทางทะเลของภาคตะวันออก การจัดงานได้มีการดึงดูดผู้เข้าชมงานทั้งคนไทยและจากต่างประเทศมากขึ้นทุกปี โดยปีนี้จะต่อยอดความสำเร็จของห้าปีที่ผ่านมา ด้วยการเพิ่มพื้นที่จัดแสดงทั้งบนชายฝั่งและบนผืนน้ำที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ให้เต็มไปด้วยกิจกรรมมากมายครอบคลุมผู้เข้าชมงานทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่ต้องการซื้อเรือ หรือกลุ่มครอบครัว ที่ต้องการร่วมสัมผัสไลฟ์สไตล์ทางทะเล เป็นต้น”
งานโอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ท โชว์ กระตุ้นธุรกิจ และสร้างรายได้ สู่ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางทะเลของภูมิภาคตะวันออก ไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาทในแต่ละปี
“การจัดงานแสดงสินค้าในแต่ละครั้งมีการตอบรับที่ดี เกิดการซื้อขายเรือหรือสินค้าภายในงาน แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือ เป็นการพบปะและการต่อยอดทางธุรกิจ และเปิดทางที่นำไปสู่การทำธุรกิจร่วมกันหลังงานเสร็จสิ้นแล้ว โอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ท โชว์ ได้วางรูปแบบทางการตลาด และดึงกลุ่มเป้าหมาย ได้เข้าชมงานเพื่อได้รับประสบการณ์สินค้าและบริการใหม่ ๆ กลุ่มเป้าหมายที่โดดเด่นของงาน คือ คนกรุงเทพฯ ซึ่งหลังจากได้มาดูสินค้าและบริการแล้ว จะมีการนัดหมายเดินทางกลับมาเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมหลังงาน ทำให้เกิดการปิดการขายได้มากขึ้น ผนวกกับโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ครั้งนี้จะทำให้มีการลงทุนเพิ่มมากขึ้นในภาคธุรกิจ และจะช่วยผลักดันการเติบโตการท่องเที่ยวทางทะเลของภูมิภาคนี้ให้สูงขึ้นในอนาคตอันใกล้” มิสเตอร์ฟิสนเตน กล่าวสรุป
โอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ท โชว์ จะจัดระหว่าง 23-26 พฤศจิกายนนี้ เป็นการแสดงสินค้าและบริการทั้งหมด 4 วัน โดยจะมีการแสดงเรือยอช์ทรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการแสดงสินค้าและบริการบนฝั่งด้านหน้าของมารีน่าพร้อมโชว์ศักยภาพท่าจอดเรือที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทิวทัศน์ที่สวยงามโดยรอบ หรือ สามารถติดตามได้ที่เฟซบุ๊ก www.facebook.com/oceanmarinapattayaboatshow