xs
xsm
sm
md
lg

ธพส. เปิดรับเอกชนร่วมลงทุนบริหาร พท. ในศูนย์ราชการฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ธพส. เปิดให้บริษัทเอกชนสนใจเข้าบริหารศูนย์ประชุม-โรงแรมในศูนย์ราชการบนพื้นที่ 40,000 ตารางเมตร โดยมีราคากลางอยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท อายุการเช่า 20 ปี โดยเอกชนสามารถซื้อเอกสารข้อเสนอร่วมทุนได้ตั้งแต่วันที่ 8-18 ส.ค. นี้ หวังนำเงินที่ได้จากการร่วมทุนครั้งนี้ไปล้างขาดทุนสะสม 600 ล้านบาท

นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) เปิดเผยว่า ธพส. ได้เปิดให้เอกชนที่สนใจยื่นข้อเสนอร่วมลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารศูนย์ประชุมและโรงแรมในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา โดยสามารถติดต่อซื้อเอกสารข้อเสนอร่วมลงทุนตั้งแต่วันที่ 8-18 ส.ค. 60 ในวันและเวลาราชการ ตั้งแต่เวลา 8.30-16.30 น. และเปิดรับการยื่นเอกสารข้อเสนอร่วมทุนในวันที่ 12 ก.ย. 60 เวลา 9.00-16.30 น. ณ ห้องประชุม 203 ชั้น 2 อาคารศูนย์ประชุมวายุภักษ์ทรงเหลี่ยม ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถนนแจ้งวัฒนะ ส่วนการให้สิทธิเอกชนร่วมลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารศูนย์ประชุมและโรงแรมนั้น จะมีกำหนดระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย. 2560
 
และสิ้นสุดลงในวันที่ 30 มิ.ย. 2581 หรือรวมระยะเวลา 20 ปี และจะไม่มีการขยายระยะเวลาโครงการ และการให้สิทธิเช่า โดยเอกชนผู้ร่วมทุนจะมีสิทธิในการเช่าพื้นที่กว่า 40,000 ตารางเมตร ซึ่งประกอบไปด้วย อาคารศูนย์ประชุมวายุภักษ์ทรงกลม อาคารศูนย์ประชุมวายุภักษ์ทรงเหลี่ยม และอาคารโรงแรม ซึ่งเป็นอาคารหลักต่อเนื่องกัน และพื้นที่ให้เอกชนใช้สอย เช่น พื้นที่จอดรถ ถนนภายในโครงการศูนย์ราชการฯ

ทั้งนี้ โดยมีรายละเอียดพื้นที่ใช้สอย คือ 1. อาคารศูนย์ประชุมวายุภักษ์ทรงกลม ตั้งอยู่บนสวนน้ำ ล้อมด้วยผนังกระจกมองเห็นวิวโดยรอบ มีโถงต้อนรับบริเวณชั้น 1 และห้องประชุมออดิทอเรียม บริเวณชั้น 2 จำนวน 250 ที่นั่ง 2. อาคารศูนย์ประชุมวายุภักษ์ทรงเหลี่ยม เป็นอาคารสูง 5 ชั้น อยู่ติดกับอาคารโรงแรม และมีทางเชื่อมระหว่างอาคารศูนย์ประชุมวายุภักษ์ทรงกลม และอาคารโรงแรมขนาด 202 ห้อง สามารถรองรับผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 7,285 ที่นั่ง 3. อาคารโรงแรม เป็นโรงแรมระดับกลางที่มีคุณภาพมาตรฐานเป็นอาคารสูง 10 ชั้น มีจำนวนห้องพัก จำนวน 204 ห้อง และ 4. ที่จอดรถ จำนวนประมาณ 300 คัน

สำหรับพื้นที่ให้เช่า จำนวน 40,000 ตารางเมตรดังกล่าวนั้น จะมีราคากลางอยู่ที่ 1,100 ล้านบาท โดยเบื้องต้นได้มีผู้แสดงความสนใจแล้ว 4-5 ราย โดยเป็นคนไทยทั้งหมด ทั้งนี้ ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2560 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) ได้มีมติเห็นชอบให้โครงการฯ ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการ PPP เพื่อลดภาระของ ธพส.

สำหรับเงินที่ได้จากการประมูลนั้น ส่วนหนึ่งจะนำเงินที่ได้รับจากค่าเช่าไปล้างขาดทุนสะสมประมาณ 600 ล้านบาท และบางส่วนจะนำไปใช้เป็นทุนเริ่มต้นในการบริหารจัดการสร้างอาคารโซน C ขนาดพื้นที่เช่าใช้ประโยชน์ 600,000-700,000 ตารางเมตร โดยจะใช้เงินลงทุน 20,000 ล้านบาท บนเนื้อที่ 81 ไร่ และจากการสำรวจความต้องการจากส่วนราชการเช่าใช้ประโยชน์ จะมีสัดส่วนเป็น 80% ของพื้นที่ทั้งหมด หากครบ 100% จะเริ่มเดินหน้ากำหนดแผนก่อสร้างส่วนราชการที่ต้องการ เช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และอีกหลายหน่วยงาน เมื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาแล้ว

ส่วนอัตราค่าเช่า นายสุเมธ คาดว่า น่าจะใกล้เคียงกับอาคารโซน B ซึ่งปัจจุบันคิดค่าเช่า 396 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน โดยปรับขึ้น 10% ทุก ๆ 5 ปี ซึ่งขณะนี้ส่วนราชการหลายแห่งเริ่มชินกับการใช้สอยพื้นที่ของศูนย์ราชการฯ แล้ว จึงต้องการขอใช้พื้นเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ส่วนแนวทางการระดมทุนนั้น จะคล้ายลักษณะเดิมแบบซีเคียวริไทยเซชัน หรือการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ เพื่อระดมทุนจากนักลงทุน และประชาชนทั่วไป ซึ่งน่าจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้

กรรมการผู้จัดการ ธพส. ยังกล่าวว่า ได้เตรียมแผนสร้างที่อยู่อาศัยตามโครงการบ้านประชารัฐเพื่อรองรับความต้องการของผู้มีรายได้น้อยเข้าอยู่อาศัยตามนโยบายของรัฐบาล โดยขณะนี้กำลังคัดเลือกพื้นที่เพื่อนำมาพัฒนาโครงการ และจะหาทางลดความเสี่ยงจากบทเรียนเดิมที่มีปัญหา เพื่อเปิดให้ชาวบ้านเข้าอาศัยในราคาถูก โดยคาดว่าจะเริ่มโครงการเร็ว ๆ นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น