xs
xsm
sm
md
lg

“เกศรา” ไม่หวั่นปัญหา บจ. ขาดสภาพคล่อง-เร่งจัดทัพเศรษฐกิจดิจิตอล ผุด LIVE Platform นวัตกรรมการลงทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท.
“เกศรา” เผยเข้าพูดคุยปรึกษากับบริษัทจดทะเบียนที่มีปัญหาขาดสภาพคล่องผิดนัดชำระหนี้แล้ว เชื่อไม่ส่งผลกระทบต่อระบบ เพราะเป็นรายบริษัทเท่านั้น แย้มแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิตอล เตรียมผุด LIVE Platform ให้เป็นศูนย์กลางแหล่งระดมทุนของ Startup คาดจะเห็นความชัดเจนได้ในปลายปีนี้

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. กล่าวว่า ในครึ่งหลังของปี 2560 ตลท. เตรียมการที่จะพัฒนาศักยภาพของบริษัทจดทะเบียนให้มีศักยภาพมากขึ้น โดยจะเน้นย้ำในส่วนของการเข้าไปกำกับดูแล และควบคุมคุณภาพของบริษัทจดทะเบียนไทย หลังจากที่ผ่านมา ปรากฏว่า บริษัทจดทะเบียนไทยหลายแห่ง มีการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มมากขึ้น จะเห็นได้จากในช่วงครึ่งปีแรก ที่ผ่านมา มีบริษัทฯ ที่ผิดนัดชำระหนี้จำนวน 4 บริษัท ได้แก่ บมจ. เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ หรือ KC, บมจ. ริช เอเชีย คอร์ปอเรชั่น หรือ RICH, บมจ. อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น หรือ IFEC และ บมจ. เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ หรือ EARTH โดยเฉพาะ บมจ. เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ ที่ประสบปัญหาอย่างมากถึงขนาดที่จะต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ แต่กระนั้น ตลท. ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจโดย ทาง ตลท. ได้เข้าไปพูดคุยกับบริษัทที่มีปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน และปัญหาอื่น ๆ ที่คาบเกี่ยวกันแล้ว ซึ่งได้มีการร่วมกันหาทางแก้ใขปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว

“ปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ ไม่ได้เป็นปัญหาที่ส่งผลต่อระบบที่มี แต่เป็นปัญหาเฉพาะรายบริษัทเท่านั้น และเป็นส่วนน้อยมาก ๆ ที่มีปัญหาขาดสภาพสภาพคล่อง โดยในครึ่งปีหลังจากนี้ ทาง ตลท. ได้มีการพูดคุยปรึกษากับบริษัทจดทะเบียนเหล่านั้น และวางแผนในการเข้าไป ดูแลบริษัทที่มีปัญหาการขาดสภาพคล่อง และหาทางออกที่มีอยู่ร่วมกัน”

ขณะเดียวกัน ในส่วนของเป้าหมายการระดมทุนของบริษัทจดทะเบียนใหม่ ทั้งในตลาดหลักทรัพย์ SET และ mai ประเมินว่า ในครึ่งปีหลังจะมีบริษัทจดทะเบียนเข้ามาระดมทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 20 บริษัท โดยเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 33-35 บริษัทต่อปี จากทุกหมวดอุตสาหกรรม ซึ่งในจำนวนนี้จะมีบริษัทที่มีมาร์เกตแคปเกิน 30,000 ล้านบาทอย่างน้อย 2-3 บริษัท โดยประเมินว่าทั้งปีจะมีมาร์เกตแคปรวมทั้งสิ้นประมาณ 280,000 ล้านบาท

“การเข้ามาระดมทุนของบริษัทจดทะเบียนใหม่นั้น เพิ่มขึ้นจากภาพสะท้อนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศไทยในทิศทางบวก ซึ่งประเมินว่าจะขยายตัวได้อย่างน้อย 3.3-3.8% เป็นไปตามภาคการส่งออกที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเติบเริ่มกลับเข้ามาสู่ภาวะปกติ ขณะที่ในสว่นของนโยบายแผนการลงทุนของภาครัฐนั้น เริ่มเห็นความชัดเจนมากขึ้น ทำให้ภาคเอกชนเริ่มกล้าที่จะทยอยขยายการลงทุน แต่กระนั้น ก็ยังคงต้องติดตามปัจจัยภายนอกประเทศ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย อีกทั้งความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทย โดยเฉพาะความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายทางการเงินและการคลังในต่างประเทศ ที่อาจจะส่งผลต่อทิศทางของเม็ดเงินที่จะไหลเข้าและไหลออก

ขณะเดียวกัน ตลท. เตรียมที่จะเปิดตัว LIVE Platform ซึ่งเป็นนวัตกรรมเครื่องมือส่งเสริมการลงทุนรูปแบบใหม่ในยุคสังคมดิจิตอลอย่างเป็นทางการในต้นไตรมาส 4/2560 เพื่อให้เป็นแหล่งข้อมูล และเป็นตลาดกลาง ของการระดมทุนในกลุ่มของ Startup ตามนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล โดยคาดว่าจะมีบริษัทที่มีความพร้อมเข้ามาระดมทุน จำนวน 5 บริษัทในปีนี้ ซึ่งประกอบธุรกิจประเภทต่าง ๆ ได้แก่ Health care, FinTech เป็นต้น โดยคาดว่าจะมีมูลค่าการระดมทุนตั้งแต่ 1-10 ล้านบาทต่อราย

นอกจากนี้ ในส่วนของการจัดงาน Thailand Focus 2017 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-31 ส.ค. นี้ ได้มีนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ เข้ามาลงทะเบียนแล้วไม่น้อยกว่า 130 กองทุน ซึ่งถือว่ามีจำนวนมากกว่าช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ก็มีบริษัทจดทะเบียนของไทยยื่นความจำนงค์เข้าร่วมแล้วประมาณ 120-130 บริษัท ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีในการสะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยมากขึ้น ทั้งนี้ เม็ดเงินของการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะมีมากหรือน้อย
กำลังโหลดความคิดเห็น