ราคาหุ้นบริษัท ไทยสโตเรจ แบตเตอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BAT-K พุ่งพรวดขึ้นทันที หลังจากบริษัทฯแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า ครอบครัวขอไพบูลย์ ได้ทำสัญญาซื้อขายหุ้นจำนวน 8,780,730 หุ้น หรือสัดส่วน 43.9% ในราคาหุ้นละ 275 บาท ให้บริษัท สยาม มากิ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัท ฮิตาชิ เคมิคอล จำกัด
หุ้น BAT-K ขยับขึ้นมาตลอด ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา จากราคาประมาณ 120 บาทต่อหุ้น ล่าสุดขึ้นมายืนระดับ 270 บาทเศษ เพิ่มขึ้นประมาณ 140%
ใครที่ถือหุ้น BAT-3K ไว้จนถึงวันนี้ เป็นโชคดีเหมือนถูกหวย แต่นักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่น่าจะทยอยขายหุ้นทำกำไรมาตลอดทาง เพราะแม้จะเป็นบริษัทที่มีผลประกอบการสม่ำเสมอ แต่ไตรมาสแรกปีนี้ ขาดทุนสุทธิ 12.98 ล้านบาท
ส่วนนักลงทุนที่เก็บสะสมหุ้นและถือยาว น่าจะเป็นนักลงทุนที่รู้เบาะแส หรือมีข้อมูลวงในหรืออินไซเดอร์ ในการเจรจาซื้อขายหุ้นระหว่างกลุ่มขอไพบูลย์กับบริษัท สยาม มากิฯ
การซื้อขายหุ้น BAT-3K มีความผิดปกติตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มิถุนายน ซึ่งราคาหุ้นยืนอยู่แถว 180 บาท โดยมีแรงซื้อไล่เก็บหุ้น ทำให้ราคาขยับแรง ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่หน้าตา จากซื้อขายวันละไม่กี่สิบล้านบาท กระโดดพรวดขึ้นไปซื้อขาย 400 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ขณะที่ราคาขยับขึ้น 20 บาท
ช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่หุ้น BAT-3K ร้อนผิดปกตินั้น อาจเป็นช่วงเวลาที่ถือหุ้นใหญ่กลุ่มเก่าและกลุ่มใหม่ บรรลุข้อตกลง เจรจาซื้อขายหุ้นในเบื้องต้นแล้ว โดยคนที่รู้ข้อมูลวงใน ได้ทยอยเข้ามาเก็บสะสมหุ้น ส่วนนักลงทุนรายย่อยทั่วไป ซึ่งไม่รู้จะมีการครอบงำกิจการหรือเทกโอเวอร์ อาจทยอยขายหุ้นออก
ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน BAT-3K เข้าสู่ช่วงขาขึ้นเต็มตัว ราคาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มูลค่าการซื้อขายสูงกว่าปกติ โดยตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้ติดใจสงสัยในพฤติกรรมราคาแต่อย่างใด ไม่ได้ข้อให้ฝ่ายบริหารบริษัทฯ ชี้แจงความผิดปกติของราคา
ผู้ถือหุ้นรายย่อย BAT-3K มีจำนวนเพียง 911 ราย และแม้จะไม่ได้เสียหายจากการซื้อขายหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ แต่ทุกคนเสียโอกาส ทุกคนถูกเอารัดเอาเปรียบจากอินไซเดอร์
นักลงทุนรายย่อยควรจะได้ขายหุ้น ในราคาแถวๆ 270 บาท ใกล้เคียงกับราคาที่กลุ่มขอไพบูลย์ขายให้ “สยาม มากิฯ” ไม่ใช่ขายกันที่ราคา 180 บาท หรือ 200 บาทต้นๆ
ย้อนดูการซื้อขายหุ้น BAT-3K ในรอบเดือนที่ผ่านมา จะเห็นร่องรอยของการใช้อินไซเดอร์อย่างชัดเจน ต้องมีคนที่รู้ข้อมูลวงใน และทยอยเก็บหุ้น
ส่วนอินไซเดอร์จะเป็นใครกันบ้าง เป็นหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์ที่จะตรวจสอบการซื้อขายย้อนหลัง และดูด้วยสายตา ดูด้วยพฤติกรรมราคาหุ้นแล้ว น่าจะตามรอยอินไซเดอร์ได้โดยไม่ยาก
งานนี้แทบจะตั้งคดีรอไว้ล่วงหน้าได้เลย BAT-3K มีการใช้ข้อมูลภายในแน่ เอาเปรียบนักลงทุนรายย่อยชัดๆ ตามแกะรอยหน่อยจะได้ตัวอินไซเดอร์